
พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) กล่าวว่า วันนี้ได้ประชุมร่วมกับตัวแทนทูตฝ่ายตำรวจจากประเทศต่าง ๆ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา และสปป.ลาว เพื่อเน้นย้ำและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังจากที่ไทยได้ดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นในเรื่องของการตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตนานกว่า 2 เดือน โดยเฉพาะฝั่งชายแดนแม่สอด เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา
โดยขณะนี้ทราบว่า หลังจากเปิดปฏิบัติการดังกล่าวฯ สามารถควบคุมตัวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้กว่า 8,000 ราย ก่อนส่งกลับไปประเทศต่าง ๆ แล้วกว่า 5,000 ราย เหลืออีกกว่า 2,000 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอประเทศต่าง ๆ ประสานนำตัวกลับประเทศต้นทาง โดยยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องการขนส่งหรือโลจิสติกส์ และงบประมาณ เช่น ประเทศในทวีปแอฟริกา ซึ่งไม่มีสถานทูตในประเทศไทย ทำให้ต้องมีการประสานงานกันหลายฝ่าย
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่ามีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาไทยไปยังแม่สอดจังหวัดตาก เพื่อข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเข้าไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือทำงานประเภทอื่น ๆ อีกทั้งยังมีชาวต่างชาติบางส่วนที่ลักลอบเดินทางจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทย เพื่อหลบหนีเพื่อไปยังประเทศที่สาม หลังมีการปราบปรามอย่างหนัก รวมถึงยังพบปัญหาเรื่องการขนย้ายอุปกรณ์ที่ลักลอบผ่านเข้าไทย เพื่อนำเข้าไปยังประเทศกัมพูชา แต่ทางเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองสามารถจับกุมตัวได้ เช่น Star Link หรือตัวส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ต ซึ่งสามารถจับกุมได้กว่า 150 เครื่อง บริเวณใกล้ชายแดน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทางศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการประชาสัมพันธ์ไปยังชาวต่างชาติ แต่ยังพบว่าชาวต่างชาติที่เดินทางมาไทยส่วนใหญ่สมัครใจที่จะไปทำงานประเทศเพื่อนบ้านผ่านทางแม่สอด จังหวัดตาก โดยจากข้อมูลยังไม่พบว่าชาวต่างชาติถูกล่อลวงหรือบังคับจากสนามบิน โดยเฉพาะกรณีของชาวเอธิโอเปียที่อ้างว่าถูกคลุมหัวจากสนามบินฯ มอมยาและบังคับข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลยังไม่พบข้อเท็จจริงแต่อย่างใด เพราะการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ประจำด่านคอยตรวจสอบตลอดทาง
ในการประชุมวันนี้จะมีการสอบถามไปยังประเทศต่าง ๆ เกี่ยวกับมาตรการของไทย ที่ดำเนินการทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ลดลงหรือไม่หรือมีสถิติอย่างไร แต่จากการประสานข้อมูลกับทางการจีนอย่างไม่เป็นทางการระบุว่าสถิติแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลดลงแต่ไม่ได้ให้รายละเอียด
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่จากสหรัฐอเมริกา และสปป.ลาว เข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อหารือและสังเกตการณ์เกี่ยวกับการจัดอันดับเทียร์ และปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งไม่ได้มีการพูดถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกาขึ้นแบล็คลิสต์ข้าราชการไทยกว่า 40 คน
พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่ทราบเหมือนกันว่าตนเองเป็น 1 ใน 40 คน ที่ถูกขึ้นแบล็คลิสต์หรือไม่ แต่ขอภาวนาว่าไม่ให้เป็นแบบนั้น ส่วนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีใครบ้างนั้น ตนเองไม่ทราบ รวมถึงไม่ทราบรายละเอียด รายชื่อเจ้าหน้าที่ข้าราชการไทยที่ถูกขึ้นแบล็คลิส สำหรับประเทศเมียนมาและกัมพูชาที่เป็นปัญหาหนักเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ วันนี้ไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมเนื่องจากติดธุระ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการปฏิเสธความร่วมมือกับทางการไทยแต่อย่างใด