
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า กระทรวงดีอี ได้ดำเนินการแก้ไขและป้องกันปัญหาข่าวปลอมที่มีผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะข่าวปลอมเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งต้องชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบอย่างรวดเร็วทันท่วงที ก่อนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
ทั้งนี้ จากข้อมูลสถิติของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย (Anti Fake News Center: AFNC) ตั้งแต่เดือนพ.ย.62 - มี.ค.68 พบว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมฯ ได้ทำการคัดกรองจำนวนข้อความทั้งหมด 1,172,694,555 ข้อความ โดยมีจำนวนข้อความที่เข้าเกณฑ์การตรวจสอบ 74,892 ข้อความ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 68)
สำหรับข้อความที่เข้าเกณฑ์ตรวจสอบดังกล่าว ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมฯ ได้บูรณาการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของข่าวสาร ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคประชาชน และสื่อมวลชน รวมเป็นเครือข่ายผู้ประสานงานกว่า 400 หน่วยงาน ซึ่งสามารถแบ่งประเภทข้อความได้ดังนี้
1.เรื่องที่ส่งตรวจสอบ จำนวน 38,361 เรื่อง โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ข่าวสารที่ผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง ดังนี้
- เรื่องนโยบายรัฐบาล 18,168 เรื่อง (47.36%)
- เรื่องสุขภาพ 14,082 เรื่อง (36.71%)
- เรื่องเศรษฐกิจ 2,115 เรื่อง (5.51%)
- เรื่องอาชญากรรมออนไลน์ 2,171 เรื่อง (5.66%)
- เรื่องภัยพิบัติ 1,825 เรื่อง (4.76%)
2.เรื่องที่ได้รับการตรวจสอบ มีจำนวนทั้งหมด 19,954 เรื่อง โดยแบ่งเป็น (1) ข่าวปลอม จำนวน 6,987 เรื่อง (35.01%) (2) ข่าวจริง จำนวน 7,955 เรื่อง (39.87%) (3) ข่าวบิดเบือน จำนวน 2,241 เรื่อง (11.23%) (4) ข้อมูลไม่เพียงพอ จำนวน 2,771 เรื่อง (13.89%)
3.เรื่องที่ได้ดำเนินการเผยแพร่ข่าวสารที่ตรวจสอบแล้วให้กับประชาชนได้รับทราบจำนวนทั้งหมด 10,293 เรื่อง แบ่งเป็น (1) ข่าวปลอม จำนวน 7,230 เรื่อง (70.25%) (2) ข่าวจริง จำนวน 2,266 เรื่อง (22.01%) (3) ข่าวบิดเบือน จำนวน 797 เรื่อง (7.74%)
"กระทรวงดีอี โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมฯ ให้ความสำคัญในการสร้างความเข้าใจ และชี้แจงข้อเท็จจริง และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องอย่างทันท่วงทีแก่ประชาชน ผ่านกระบวนการตรวจสอบข้อมูลอย่างรัดกุม ซึ่งในอนาคต จะมีการนำเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้ามาช่วยในการตรวจสอบข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน และข่าวจริง รวมทั้งการแจ้งเตือนภัยจากการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงทางออนไลน์ หรืออาชญากรรมออนไลน์ ในรูปแบบต่าง ๆ ให้ทันต่อสถานการณ์อยู่เสมอ เพื่อลดความสูญเสียของประชาชนในการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงประชาชน" นายประเสริฐ กล่าว