ACT ผ่าวงจรคอร์รัปชันล็อคสเปก-ฮั้วประมูลงานก่อสร้างภาครัฐ กินหัวคิวปีละ 2 แสนล้าน แนะรื้อทบทวนกติกาใหม่

ข่าวทั่วไป Thursday April 24, 2025 11:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ACT ผ่าวงจรคอร์รัปชันล็อคสเปก-ฮั้วประมูลงานก่อสร้างภาครัฐ กินหัวคิวปีละ 2 แสนล้าน แนะรื้อทบทวนกติกาใหม่

นายมานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT เผยแพร่บทความเรื่อง "ตึก สตง.ถล่ม:ภาพสะท้อนวงการคอร์รัปชันในงานก่อสร้างภาครัฐ" ระบุปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างในงานก่อสร้างภาครัฐมีขบวนการกินหัวคิวสูงถึงปีละ 2 แสนล้านบาท โดยเสนอรัฐให้รื้อระบบ ทบทวนกติกาจัดซื้อจัดจ้างงานก่อสร้างใหม่ เพื่อป้องกันการเกิดโศกนาฏกรรมซ้ำซาก

โดยประเมินงานก่อสร้างภาครัฐมูลค่า 7.8 แสนล้านบาทต่อปีว่าถูกคอร์รัปชันไปราว 2 แสนล้านบาท ผ่านการล็อกสเปก ฮั้วประมูล ลดงาน ลดคุณภาพวัสดุและอีกสารพัดกลโกง ทั้ง 2.3 แสนโครงการที่รัฐลงทุนไปนั้น ล้วนตกอยู่ในวงจรคอร์รัปชันแทบไม่ต่างกัน ซึ่งมีตัวละครที่เกาะกินวงการก่อสร้างภาครัฐ จนหลายโครงการสร้างไม่เสร็จหรือปล่อยทิ้งร้าง ไม่ต่างจากอาคาร สตง.ที่ถล่มลงมา ได้แก่

ACT ผ่าวงจรคอร์รัปชันล็อคสเปก-ฮั้วประมูลงานก่อสร้างภาครัฐ กินหัวคิวปีละ 2 แสนล้าน แนะรื้อทบทวนกติกาใหม่

1.บริษัทออกแบบ มีรายได้จากค่าจ้างออกแบบ และโดยทั่วไปยังเป็นผู้กำหนดสเปกสินค้าเป็นการเฉพาะอย่าง ทั้งวัสดุก่อสร้าง-ตกแต่ง อุปกรณ์เครื่องใช้ ฯลฯ ทำให้ได้ค่าตอบแทนหรือคอมมิชชั่นจากผู้จำหน่ายสินค้าเหล่านั้น เช่น ผนังอาคารกระจก (Curtain Wall) มูลค่างานนับร้อยล้าน งานประตูหน้าต่าง เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์แสงเสียง และวัสดุงานระบบต่าง ๆ เป็นต้น

การคัดเลือกบริษัทออกแบบโดยทั่วไปใช้วิธีประกวดแบบจึงมักต้องวิ่งเต้นผู้มีอำนาจในหน่วยงาน โดยจ่ายเป็นเงินใต้โต๊ะ หรือยอมทำตามความต้องการของผู้มีอำนาจ เช่น เขียนเงื่อนไขล็อคสเปกให้ได้ผู้รับเหมาก่อสร้างที่ผู้มีอำนาจต้องการ หรือประเมินราคากลางสูงเกินจริง 20-30% เพื่อนำมาเป็นเงินทอน หรือวางสเปกสินค้าราคาแพงบางอย่างจากผู้จำหน่ายที่เจาะจงไว้

2.บริษัทที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง นอกจากได้ค่าจ้างตามสัญญาแล้วยังมีรายได้เพิ่มจากเบี้ยเลี้ยง/ค่าโอทีที่เรียกเก็บจากบรรดาผู้รับเหมาในโครงการ บริษัทควบคุมงานฯ ที่ไม่ซื่อสัตย์ จะลดจำนวนวิศวกรหรือเจ้าหน้าที่คุมงานจริง ลดการเก็บวัสดุก่อสร้างไปทดสอบคุณสมบัติให้น้อยครั้งกว่าที่กำหนดในสัญญาจ้าง บางรายใจกล้ามากก็สมรู้ร่วมคิดกับผู้รับเหมายอมให้ลดงาน ลดสเปกโดยทั่วไปพบว่า บริษัทออกแบบมักเป็นพวกเดียวกันกับบริษัทควบคุมงาน

3.บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมามีทั้งที่ชนะการประมูลงานโดยสุจริตและพวกที่ล็อกสเปก/ฮั้วประมูลเข้ามา ผู้รับเหมาที่ดีจะทำกำไรจากความสามารถในการบริหารจัดการก่อสร้าง ส่วนผู้รับเหมาที่คดโกงจะกอบโกยจากผลพวงการฮั้วประมูลที่กำหนดราคากลางไว้สูงมาก ทำกำไรเพิ่มจากการลดสเปก ลดคุณภาพงาน รวมทั้งวิ่งเต้นให้มีการแก้แบบ ลดปริมาณงาน เพิ่มงาน หรือยกเลิกงานบางส่วนแล้วออกแบบใหม่ หากงานส่วนนั้นตนได้กำไรน้อยหรือขาดทุน

4.ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยราชการนั้นเอง หากผู้บริหารระดับสูงต้องการมีผลประโยชน์จากงานก่อสร้าง จะเริ่มจากบงการการกำหนดรูปแบบโครงการ แต่หากโครงการเดินหน้าไปแล้วก็อาจสั่งเปลี่ยนแปลง โยกย้ายสถานที่ เพื่อให้มีการแก้ไขหรือเขียนโครงการใหม่ส่งผลให้เรื่องกลับมาอยู่ในเกมอำนาจของตน

"เมื่อเริ่มโครงการก็จะแอบชักใยอยู่เบื้องหลัง ยืมมือผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน และผู้รับเหมา เพื่อคอร์รัปชันในโครงการ ซึ่งเป็นกรณีที่อันตรายที่สุดและทำให้ราชการเสียประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อพวกเขายอมให้เอกชนเขียนเงื่อนไขสัญญาที่รัฐเสียเสียเปรียบหรือต้องจ่ายค่าโง่ในอนาคต" นายมานะ ระบุ

5.เจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน โดยปกติหน่วยงานเจ้าของโครงการจะแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจการจ้าง บางกรณีมีเจ้าหน้าที่ควบคุมงานประจำโครงการ คนเหล่านี้คือตัวแทนของหน่วยงานในการรักษาผลประโยชน์ แต่บ่อยครั้งที่พวกเขากลับไปรีดไถผู้รับเหมาเป็นเงินก้อน พาไปเลี้ยงอาหารเที่ยวสถานบันเทิง จ่ายค่าเดินทาง ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าตรวจงาน ฯลฯ

"สินบนที่กล่าวมาคือต้นทุนการก่อสร้างที่ผู้รับเหมารู้อยู่แล้วว่าต้องจ่าย แลกกับความสะดวกหรือสมคบคิดกันทำสิ่งไม่ถูกต้องบางอย่าง แต่หากเป็นโครงการที่มีกำไรน้อย ผู้รับเหมาอาจตกในภาวะจำยอมหรือต้องบ่ายเบี่ยง เป็นเหตุให้ถูกกลั่นแกล้งหรือดึงเรื่องเมื่อตรวจรับงาน ขอเบิกเงินค่างวด ผู้รับเหมาหลายรายทนการรีดไถไม่ไหวอาจถึงขั้นต้องทิ้งงาน" นายมานุ ระบุ

นอกจากที่กล่าวมาแล้ว หลายโครงการยังต้องเผชิญการชักเปอร์เซ็นต์จากนายหน้าขายงาน และขบวนการจัดฮั้วประมูล

โดยทิศทางการพัฒนาการใช้จ่ายของรัฐ กระบวนการจัดทำงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้างฯ และการติดตามประเมินความคุ้มค่า ยังมีข้อจำกัดมาก สิ่งที่ต้องเร่งปรับปรุง ได้แก่

1) เร่งรื้อระบบจัดซื้อจัดจ้างฯ ให้มีกติกาเปิดกว้าง จูงใจให้เอกชนเข้าแข่งขันมากขึ้น สนับสนุนการแข่งขันเสรี เปิดให้รัฐมีทางเลือกมากขึ้น มีโอกาสเลือกผู้รับเหมาที่มีศักยภาพในการทำงานให้บรรลุเป้าหมายของรัฐมากกว่าเน้นราคาถูก ลงโทษเอกชนทุกรายที่ไม่ซื่อสัตย์ ทำให้รัฐเสียหาย ฯลฯ

2) เปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมมากกว่าเดิม เริ่มจากการใช้ข้อตกลงคุณธรรมอย่างเข้มข้น จริงจัง

3) ใช้เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตาม ตรวจสอบ เช่น ระบบ GPS และ Ai เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ