สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต เผยผลสำรวจความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ ต่อการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในการต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และมีการปะทะกันระหว่างม็อบหนุนกับม็อบต้านนั้น พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ 32.49% ห่วงว่าจะเกิดการปะทะกันที่รุนแรงและเกิดเหตุจลาจลขึ้น ขณะที่อีก 28.29% ห่วงว่าเศรษฐกิจของประเทศและการลงทุนจะชะลอตัว
โดยแนวทางแก้ปัญหาที่ประชาชนคิดว่าจะทำให้การประท้วงยุติลงได้นั้น 43.79% ต้องการให้หันหน้าเข้าหากันหรือพบกันครึ่งทาง, 28.76% ต้องการให้ส่งหัวหน้าหรือแกนนำของทั้ง 2 ฝ่ายมาเจรจากัน ขณะที่ 13.73% ต้องการให้ใช้มาตรการเด็ดขาดเพื่อสลายการชุมนุมให้หมดไปโดยเร็ว ส่วน 8.50% แนะให้มีสติและใช้เหตุผลในการแก้ปัญหาดีกว่าใช้กำลัง โดย 5.22% เห็นว่าคงแก้ไขได้ยาก และคิดว่าเหตุการณ์จะบานปลาย
ทั้งนี้สิ่งที่ประชาชนฝากถึงม็อบพันธมิตรฯ มากที่สุด คือ ขอให้ยุติการประท้วงเคลื่อนไหว รองลงมาคือ ขอให้นึกถึงประเทศชาติบ้านเมืองเป็นสำคัญ และควรใช้วิธีการแบบสันติวิธีด้วยการชุมนุมอย่างสงบ ส่วนสิ่งที่ประชาชนอยากฝากถึงรัฐบาลมากที่สุด คือ ขอให้นึกถึงประเทศชาติและประชาชนให้มากๆ รองลงมาคือ เร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้นโดยเร็ว และปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องโปร่งใสอย่างชัดเจน
สวนดุสิตโพล ได้ทำการสำรวจดังกล่าวจากประชาชนในเขตกรุงเทพฯ จำนวนทั้งสิ้น 1,561 คน ในระหว่างวันที่ 26-28 พ.ค.51
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--