ตำรวจยืนยันจะสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ให้เคลื่อนขบวนเข้าใกล้ทำเนียบรัฐบาล โดยพร้อมจะใช้กฎหมายดำเนินคดีหากผู้ชุมนุมพยายามจะฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ และกำชับให้ใช้ความอดทนหนักแน่นเพื่อดูแลการชุมนุมไม่ให้เกิดเหตุร้ายเหตุรุนแรงให้มากที่สุด ย้ำไม่พกกระบองแต่จะใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชนตามหลักสากล
พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สิทธิเสรีภาพการชุมนุมของประชาชนเป็นไปตามมาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญ แต่การชุมนุมจะต้องไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น การที่เจ้าหน้าที่ปิดกั้นพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อรักษาสิทธิบางอย่างของรัฐหรือประชาชนอื่นๆ หากฝ่าฝืนจะเป็นการชุมนุมที่ไม่สงบเรียบร้อย
"ถ้ามีการผลักมีการดัน หรือมีการใช้อาวุธเพื่อฝ่าเข้ามาเหล่านั้นล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง อาจจะเป็นความปิดตามกฎหมายในลักษณะที่มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปที่จะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เป็นความผิดตามกฎหมาย" พล.ต.ต.สุรพล กล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุในช่วงเย็นวันนี้
จุดที่เจ้าหน้าที่จะสกัดกั้นให้กลุ่มผู้ชุมนุมจะอยู่ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ตามเดิม ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรฯจะกระจายกันไปตามสถานที่ต่างๆ ก็จะมีการปิดการจราจรบริเวณใกล้กับทำเนียยรัฐบาล พร้อมทั้งถ่ายภาพนิ่งภาพวิดีโอทุกช่วงเวลา เพื่อนำมาประกอบกับพยานหลักฐานที่ได้รวบรวมไว้ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมาเพื่อแสดงให้ศาลเห็นหากมีการก่อความวุ่นวาย ซึ่งแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯจะต้องรับผิดชอบในทุกกรณี
รองโฆษก สตช.กล่าวว่า เหตุที่ไม่สามารถให้กลุ่มพันธมิตรฯ เคลื่อนเข้าไปใกล้ทำเนียบรัฐบาล เพราะในอดีตที่มีการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลก็จะมีการใช้เครื่องขยายเสียงที่ดังมาก รบกวนการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และที่สำคัญมีการปิดกั้นการเข้าออกของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี รวมทั้งแขกสำคัญของประเทศ ข้าราชการเองก็ไม่สามารถทำงานได้ ก่อให้เกิดความไม่สะดวกในการบริหารราชการแผ่นดิน และเกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อต่างชาติ
ในวันนี้ ผบ.ตร.ได้ชี้แจงผู้ใต้บังคับบัญชาให้สั่งการกำลังพลที่จะต้องปฏิบัติภารกิจให้อดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุต่างๆ ให้มากกว่าปกติ อย่าใช้อารมณ์ เพราะรู้อยู่แล้วว่ากลุ่มผู้ชุมนุมต้องการให้เกิดความรุนแรงเพื่อนำไปเป็นเงื่อนไขทางการเมือง โดยจะต้องดูแลการชุมนุมไม่ให้เกิดเเหตุร้ายรุนแรงให้มากที่สุดเท่าที่โดยสภาพจะทำได้
"เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ใช่กระบอง แต่จะใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชนอื่นๆ ตามมาตรฐานสากล กระบองจะใช้ต่อเมื่อถูกลุกไล่จนไม่ไหวจริงๆ เราค่อยกลับไปเอามา เพราะไม่ต้องการเกิดภาพที่ยั่วยุ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายประชาชน" พล.ต.ต.สุรพล กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ศศิธร/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--