เจ้าหน้าที่ยูเอ็นชี้วิกฤติน้ำมันแพงส่งผลดีในแง่สิ่งแวดล้อม

ข่าวต่างประเทศ Friday July 4, 2008 17:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          เจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยว่า สถานการณ์ด้านราคาน้ำมันที่พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 146 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลส่งผลดีต่อสภาพแวดล้อม
Yvo de Boer ผู้อำนวยการประจำสำนักงานว่าด้วยความเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศแห่งสหประชาชาติ (UNFCCC) กล่าวว่า "ผมคิดว่าภาวะดังกล่าวเป็นเรื่องดี ซึ่งสิ่งแรกที่เห็นได้ชัดคือ ความต้องการในยุโรปและอเมริกาเหนือลดลง เนื่องจากประชาชนเริ่มตระหนักถึงราคาน้ำมันกันมากขึ้น"
"นอกจากนั้นแล้ว ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันด้านการหาแหล่งพลังงานหมุนเวียน และช่วยกระตุ้นให้เกิดความสนใจด้านการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า แต่ขณะเดียวกันภาวะน้ำมันแพงยังทำให้รูปแบบการสกัดน้ำมันดิบผ่านกระบวนการกลั่นที่มีความเข้มข้นสูงเป็นที่ดึงดูดใจมากขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการปล่อยก๊าซพิษออกสู่ชั้นบรรยากาศสูงขึ้นตามมา หากมีการนำแหล่งพลังงานดังกล่าวมาใช้ในเชิงพาณิชย์" เขาเสริม
ทั้งนี้ รูปแบบการสกัดน้ำมันที่กล่าวถึงข้างต้น ได้แก่ การสกัดน้ำมันจากแหล่งทรายน้ำมันในแคนาดา ซึ่งมีส่วนผสมที่เข้มข้นของทราย น้ำ และน้ำมันที่อัดแน่นรวมกัน ซึ่งแหล่งทรายน้ำมันแห่งนี้สามารถสกัดน้ำมันจากทรายมาใช้ได้โดยผ่านกระบวนการแยกน้ำมันเหนียว ซึ่งขั้นตอนการสกัดและกลั่นน้ำมันนี้เองที่จะผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า แหล่งทรายน้ำมันจะเป็นทางรอดเดียว หากราคาน้ำมันในตลาดโลกยังเคลื่อนไหวในระดับสูง
อย่างไรก็ดี ประธานของบริษัทน้ำมันในอินเดียกล่าวว่า อินเดียอาจทุ่มเงินลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อดำเนินธุรกิจด้านแหล่งทรายน้ำมันในอนาคต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ