คณะกรรมการมรดกโลก ภายใต้องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(ยูเนสโก) มีมติรับขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารของกัมพูชาแล้ว ขณะที่ไทยเตรียมจะเสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลกในส่วนบริเวณโดยรอบปราสาทพระวิหารที่อยู่ในดินแดนของไทย ซึ่งรวมไปถึงอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารและส่วนอื่น ๆ ที่เป็นองค์ประกอบรอบปราสาทในปีหน้า
"ผลการประชุมของคณะกรรมการมรดกโลก มีมติรับขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกตามที่กัมพูชาเสนอแล้ว" นายปองพล อดิเรกสาร ประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกของไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์
อย่างไรก็ดี ฝ่ายไทยยังคงยืนยันในท่าทีเดิม คือคัดค้านการขึ้นทะเบียนดังกล่าว เพราะถ้ามีการขึ้นทะเบียนต้องมีองค์ประกอบภูมิทัศน์ที่สมบูรณ์ตามหลักเกณฑ์ ดังนั้น คาดว่าในปีหน้าไทยจะเสนอในส่วนบริเวณโดยรอบปราสาทพระวิหารที่อยู่ในดินแดนของไทยต่อไป ซึ่งรวมไปถึงอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารและส่วนอื่นของเทือกเขาพนมดงรักด้วย
สำหรับคำแถลงของนายปองพล ต่อที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 32 ที่เมืองควิเบก ประเทศแคนาดา หลังมีมติให้ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ระบุตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยได้ร้องขอครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อมีส่วนในการเสนอร่วมกันให้ปราสาทพระวิหาร
ได้ขึ้นทะเบียนในลักษณะการเสนอร่วม
ทั้งนี้ ปราสารพระวิหาร เป็นวัดฮินดูในศตวรรษที่ 11 บนยอดเขาที่เป็นพรมแดนระหว่างไทยและกัมพูชาอันเป็นดินแดนซึ่งยังมีข้อโต้แย้งกันระหว่างประเทศทั้งสอง
"พวกเรารู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรงที่ข้อเรียกร้องของเรา ที่จะเสนอให้ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกในลักษณะการเสนอร่วมกันนั้นได้ถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า และบัดนี้ปราสาทพระวิหารได้รับการยินยอมให้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกเป็นพิเศษ โดยใช้เกณฑ์ข้อที่ 1 เพียงข้อเดียวเท่านั้น อีกทั้งยังปราศจากบริเวณกันชน ซึ่งทำให้ขาดภูมิทัศน์บริเวณรอบด้านที่จะทำให้ปราสาทพระวิหารมีความสง่างามและความสมบูรณ์ดังที่ควรจะเป็น
และด้วยเหตุผลดังกล่าว เราไม่สามารถจะยอมรับการขึ้นทะเบียนเพียงฝ่ายเดียว โดยใช้เกณฑ์เพียงข้อเดียวของปราสาทพระวิหารขึ้นเป็นมรดกโลกได้ เราประสงค์ที่จะให้เลื่อนการพิจารณาการเสนอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารไปก่อนจนกว่ารัฐภาคีทั้งสองจะแก้ไขคลี่คลายข้อแตกต่างที่มีอยู่ และสามารถจะร่วมกันขึ้นทะเบียน ซึ่งจะเป็นการยอมรับทั้งสองฝ่ายได้
เราขอประท้วงการใช้ผังทางภูมิศาสตร์หรือแผนที่ใดๆ ของมรดกโลก ซึ่งอาจจะนำไปสู่ข้อขัดแย้งยิ่งขึ้น และอาจนำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่เป็นมิตรระหว่างชุมชนที่อยู่รอบๆ บริเวณดังกล่าวในอนาคต" คำแถลงของนายปองพล ระบุ
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--