นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรมช.มหาดไทย จำเลยคดีทุจริตคลองด่าน ที่ไม่ยอมมาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้เดินทางหนีออกนอกประเทศ ซึ่งอาจจะหลบไปบ่อนกาสิโนประเทศเพื่อนบ้าน ว่า การติดตามตัวนั้นจะต้องพิจารณาว่าไทยมีสนธิสัญญากับประเทศนั้นหรือไม่ ซึ่งระหว่างไทยกับประเทศกัมพูชา ตนยังไม่แน่ใจ แต่ไทยเคยมีสนธิสัญญากับประเทศฝรั่งเศส ซึ่งประเทศกัมพูชาเคยตกอยู่ใต้อาณานิคมประเทศฝรั่งเศสมาก่อน
แต่หากถึงวันนัดฟังคำพิพากษา วันที่ 18 ส.ค.นี้ แล้วยังไม่สามารถตามตัวนายวัฒนามาได้ อัยการจะดำเนินการอย่างไร นายธนพิชญ์ กล่าวว่า จะต้องได้หลักฐานยืนยันให้ชัดก่อนว่า นายวัฒนาหลบหนีจริง ๆ และหลบหนีไปประเทศใด แล้วจึงจะดำเนินการขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนได้ แต่ถ้าขณะนี้ยังหาตัวนายวัฒนาไม่ได้ โดยไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน ก็เป็นเรื่องที่ศาลจะต้องปรับนายประกัน และอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีแนวคิดการคัดค้านการประกันตัว เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เพราะโดยหลักการทั่วไป หากผู้ต้องหาหรือจำเลยเข้ามอบตัวในการดำเนินคดี อัยการมักจะไม่ค้านประกันอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องการจะให้ประกันตัวหรือไม่ หรือจะถอนประกัน เป็นอำนาจของศาลที่จะใช้ดุลพินิจ
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--