ศาลปกครองกลางพิพากษายกฟ้องคดีมะละกอจีเอ็มโอของมูลนิธิกรีนพีซ

          ศาลปกครองกลาง พิพากษายกฟ้องคดีมะละกอตัดต่อสารพันธุกรรม(GMOs) เนื่องจากข้ออ้างของมูลนิธิเพื่อสันติภาพ กรีนพีซ เอสอีเอ ที่ระบุว่า กรมวิชาการเกษตร ละเลยต่อหน้าที่โดยปล่อยให้มีการแพร่กระจายของมะละกอดังกล่าวฟังไม่ขึ้น
          "ข้ออ้างของกรีนพีซ เอส อี เอ จึงไม่อาจรับฟังได้ ศาลจึงพิพากษายกฟ้องคดี" คำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ระบุ
          คดีนี้ มูลนิธิเพื่อสันติภาพ กรีนพีซ เอสอีเอ ได้ยื่นฟ้องกรมวิชาการเกษตร กับพวกรวม 2 คน เรื่องคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยการละเลยต่อหน้าที่ปล่อยให้พันธุ์มะละกอ GMOs ต้านทางโรคใบด่างวงแหวน แพร่กระจายออกนอกพื้นที่สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 ส่วนแยกพืชสวน ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ไปสู่แปลงเพาะปลูกของเกษตรกร
          ผู้ฟ้องคดีขอให้มีคำสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้ทดลองปลูกมะละกอดังกล่าว และให้ตรวจสอบมะละกอในพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรทั้งหมด พร้อมทั้งกำหนดให้กำหนดมาตรการในการควบคุมการแพร่กระจายของมะละกอดังกล่าวไปสู่แปลงเกษตรกรและสิ่งแวดล้อม
          ในขั้นตอนการไต่สวน ผู้ฟ้องคดีระบุว่า เจ้าหน้าที่ของกรมวิชาการเกษตรทำการทดลองปลูกมะละกอดังกล่าวในพื้นที่เปิดธรรมชาติ ใกล้เคียงกับแปลงปลูกมะละกอพันธุ์ปกติ โดยไม่มีการป้องกันลม และสัตว์พาหะ ส่งผลให้เกิดการผสมข้ามพันธุ์ไปยังมะละกอพันธุ์ปกติ ซึ่งผู้ฟ้องคดีได้ทำหนังสือร้องไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ยับยั้งการทดลองพืช GMOs ในพื้นที่เปิด รวมทั้งส่งหนังสือถึงกรมวิชาการเกษตรให้หยุดจำหน่ายเมล็ดพันธุ์และต้นกล้ามะละกอทุกชนิด และทำลายมะละกอ GMOs แต่ก็ไม่มีคำสั่งยับยั้งหรือยุติการทดลองใดๆ
          ทั้งนี้ คณะตุลาการศาลปกครองกลาง พิจารณาแล้วเห็นว่า คำกล่าวอ้างของผู้ฟ้องคดีที่ระบุว่าได้ตรวจสอบนำตัวอย่างเมล็ดพันธุ์ที่กรมวิชาการเกษตรเป็นผู้จำหน่ายและพบมะละกอ GMOs นั้นไม่มีพยานหลักฐานอื่นที่ยืนยันว่าเกิดจากการทดลองปลูกมะละกอ GMOs ของเจ้าหน้าที่จริง เพราะอาจเกิดจากการนำเข้าเมล็ดพันธุ์ที่ผิดกฎหมายก็ได้ 
          อีกทั้งทางกรมวิชาการเกษตรเองได้ออกประกาศเรื่อง กำหนดให้พื้นที่ปลูกมะละกอ GMOs ของเกษตรกรเป็นเขตควบคุมศัตรูพืช และทำลายมะละกอในแปลงดังกล่าวโดยวิธีกลบฝัง โดยจ่ายค่าชดเชยต้นละ 40 บาท และให้ติดตามตรวจสอบมะละกอที่จำหน่ายในท้องตลาดหลายแห่ง ในช่วงปี 47-49 และไม่พบมะละกอ GMOs ในตัวอย่างที่เก็บจึงถือว่าผู้ถูกฟ้องได้ดำเนินการตรวจสอบ และเฝ้าระวังการแพร่กระจายไปสู่แปลงของเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง มิได้ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด