บรรดาเจ้าหน้าที่ของสหรัฐ รวมถึงผู้ว่าการรัฐต่างๆกำลังเตรียมความพร้อมรับมือกับพายุ "กุสตาฟ" ที่มุ่งหน้าเข้าพัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งในอ่าวเม็กซิโกภายใน 72 ชั่วโมง เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอยกับพายุเฮอริเคนแคทริน่าที่เข้าพัดถล่มพื้นที่ดังกล่าวเมื่อ 3 ปีก่อน
ผู้ว่าการรัฐหลุยส์เซียน่าจากพรรครีพับลิกันได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อช่วง 2 วันที่ผ่านมา พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือก่อนหน้าที่พายุลูกดังกล่าวจะเข้าถล่มพื้นที่ ทั้งนี้ เมื่อปี 2548 แคทเธอลีน บลันโก ผู้ว่าการรัฐหลุยส์เซียนาจากพรรคเดโมเครตประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ซึ่งเป็นเวลา 3 วันก่อนที่พายุจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งด้วยความเร็ว 145 ไมล์ต่อชั่วโมง (233 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
ด้านนายฮาเลย์ บาร์บัวร์ ผู้ว่าการรัฐมิสซิสซิปปี้ และนายริก เพอร์รี่ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสได้มีคำสั่งประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวานนี้ ขณะที่ นายกเทศมนตรีรัฐนิวออร์ลีนส์ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทางการสหรัฐไม่ต้องการให้พายุกุสตาฟสร้างความเสียหายเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในปี 2548 ซึ่งขณะนั้น มิเชล บราวน์ ประธานขององค์การ Emergency Management Administration และประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช เผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าแก้ปัญหารับมือกับพายุแคทริน่าล่าช้า จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1,800 ราย อีกทั้งยังทำให้เกิดน้ำท่วม 80% ในนิวออร์ลีนส์ ขณะที่ประชาชน 250,000 ครัวเรือนต้องไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งพายุเฮอริเคนครั้งดังกล่าวได้สร้างความเสียหายรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติเปิดเผยว่า พายุกุสตาฟได้อ่อนกำลังลงจากพายุเฮอริเคนเป็นพายุโซนร้อนเมื่อช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยเมื่อวานนี้ พายุลูกดังกล่าวเคลื่อนตัวด้วยความเร็วลมเกือบ 70 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่อาจทวีความรุนแรงขึ้นเป็นพายุเฮอริเคนที่เคลื่อนตัวด้วยความเร็วลมอย่างน้อย 74 ไมล์ต่อชั่วโมงอีกครั้งในวันนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--