ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐซึ่งที่มีสำนักงานในไมอามี รัฐฟลอริด้า รายงานว่า ขณะนี้พายุเฮอริเคน"กุสตาฟ"มีความเร็วลมสูงสุด 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและคาดว่าจะพัดเข้าอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐในวันอังคาร ซึ่งจะทำให้มีฝนตกได้ในหลายพื้นที่ตั้งแต่รัฐเท็กซัสไปจนถึงรัฐฟลอริด้า
พายุกุสตาฟได้พัดถล่มประเทศแถบแคริบเบียนเมื่อวันพฤหัสบดี คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 68 ราย ขณะที่สหรัฐคาดพายุลูกนี้จะเคลื่อนตัวถึงนิวออร์ลีนส์และอ่าวเม็กซิโกแหล่งผลิตน้ำมันสำคัญของสหรัฐในวันอังคารเป็นอย่างช้า
ผู้ว่าการรัฐต่างๆในสหรัฐเตรียมความพร้อมรับมือกับพายุกุสตาฟที่กำลังมุ่งหน้าเข้าพัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งในอ่าวเม็กซิโก เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอยกับพายุเฮอริเคนแคทริน่าที่เข้าพัดถล่มพื้นที่ดังกล่าวเมื่อ 3 ปีก่อน โดยผู้ว่าการรัฐหลุยส์เซียนาประกาศภาวะฉุกเฉินพร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือก่อนหน้าที่พายุลูกดังกล่าวจะเข้าถล่มพื้นที่ ขณะที่นายฮาเลย์ บาร์บัวร์ ผู้ว่าการรัฐมิสซิสซิปปี้ และนายริก เพอร์รี่ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสได้มีคำสั่งประกาศภาวะฉุกเฉินไปแล้วเมื่อวานนี้ และนายกเทศมนตรีรัฐนิวออร์ลีนส์ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน
สหรัฐพยายามทำทุกวิถีทางที่จะไม่ให้พายุกุสตาฟสร้างความเสียหายเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในปี 2548 ซึ่งขณะนั้น มิเชล บราวน์ ประธานคณะทำงานฝ่ายอุบัติภัยฉุกเฉินและประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าแก้ปัญหารับมือกับพายุแคทริน่าล่าช้า จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1,800 ราย อีกทั้งยังทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในนิวออร์ลีนส์ ขณะที่ประชาชน 250,000 ครัวเรือนต้องไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งพายุเฮอริเคนครั้งดังกล่าวได้สร้างความเสียหายรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--