กฟผ.เผยเขื่อนอุบลรัตน์ยังมั่นคงแข็งแรงแต่ปริมาณน้ำมากต้องระบายออก

ข่าวทั่วไป Tuesday September 30, 2008 17:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เผยมีความจำเป็นต้องระบายน้ำออกจากเขื่อนอุบลรัตน์เนื่องจากมีปริมาณมาก แต่จะดูแลให้เกิดผลกระทบกับประชาชนเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนน้อยที่สุด พร้อมยืนยันเขื่อนอุบลรัตน์ยังมั่นคงแข็งแรง แม้จะต้องรับน้ำถึง 92% ของความจุอ่าง
"หากปริมาณเก็บกักน้ำเกินกว่าระดับเก็บกักของเขื่อนฯ จะส่งผลกระทบต่อพืชผลเกษตรของประชาชนที่อยู่เหนือเขื่อนเช่นกัน จึงต้องจัดสรรการเก็บกักน้ำให้เหมาะสม" นายสมบูรณ์ จิตตลีลา ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กฟผ.กล่าว
ทั้งนี้ จากสภาพฝนตกหนักในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย.จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์อย่างต่อเนื่องจำนวน 73.08 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน(ล.ลบ.ม./วัน) และนับถึงปัจจุบันมีระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำอยู่ที่ 181.51 เมตร ต่ำกว่าระดับเก็บกักสูงสุดที่ 182 เมตร คิดเป็น 92% ของความจุอ่างเก็บน้ำ หรือ 0.49 เมตร ยังคงสามารถรับน้ำได้อีก 191 ล้าน ลบ.ม.
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า จากการคาดการณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีแนวโน้มฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องอันได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน "เมขลา" ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำฝนไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์เพิ่มขึ้น ดังนั้นเขื่อนอุบลรัตน์จำเป็นต้องระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำล้น(Spill Way) ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.ที่ผานมา เพื่อรักษาระดับน้ำมิให้เกิดผลกระทบและสร้างความความเดือดร้อนต่อพี่น้องประชาชน ทั้งด้านเหนือน้ำและท้ายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ โดยได้ระบายน้ำเพื่อควบคุมระดับและปริมาณน้ำในอัตราประมาณ 375 ลบ.ม./วินาที ขณะที่ลำน้ำพองสามารถรองรับการระบายน้ำได้ในอัตรา 400 ลบ.ม./วินาที

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ