สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อเหตุการณ์สลายม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พบว่า ประชาชนที่สนับสนุนและคัดค้านการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ มีสัดส่วนไม่แตกต่างกันมากนัก โดยประชาชนส่วนใหญ่ 47.7% สนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ขณะที่ 42.9% ไม่สนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ และมีประชาชนเพียง 9.4% เท่านั้นที่เลือกจะขออยู่ตรงกลาง
"จากเหตุการณ์สลายม็อบพันธมิตรฯ จนเกิดการสูญเสีย ส่งผลผลักดันให้ประชาชนที่เคยมีจุดยืนอยู่ตรงกลางลดน้อยลงเหลือเพียง9.4% เข้าสู่การเลือกข้าง โดย 47.7% เลือกสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร และ 42.9% เลือกไม่สนับสนุนกลุ่มพันธมิตร" นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการ สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ ระบุ
ส่วนความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ความวุ่นวายระหว่างวันที่ 7-8 ต.ค.51 ในแต่ละสถานการณ์นั้น สิ่งที่ประชาชนไม่เห็นด้วยมากที่สุดถึง 82% คือ การที่แพทย์บางคนปฏิเสธการรักษาตำรวจและนักการเมือง รองลงมา 81.4% ไม่เห็นด้วยที่กลุ่มพันธมิตรฯ ปิดทางเข้าออกรัฐสภา, 76.5% ไม่เห็นด้วยที่กลุ่มพันธมิตรฯ ไปชุมนุมหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล, 73.9% ไม่เห็นด้วยที่ ส.ส.ฝ่ายค้านและ ส.ว.บางส่วนไม่เข้าฟังการแถลงนโยบายรัฐบาล
และ 52.9% ไม่เห็นด้วยที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุม
สำหรับทางออกที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์การเมืองของประเทศในขณะนี้ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 39.6% ต้องการให้มีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ รองลงมา คือให้ปรับคณะรัฐมนตรีและทำงานต่อไป, เสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติ, แก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 บางมาตรา โดยมีเพียง 2.6% ที่ระบุว่าให้ยึดอำนาจ
การสำรวจความคิดเห็นดังกล่าว มาจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นประชาชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งสิ้น 2,118 คน ระยะเวลาโครงการตั้งแต่ 8-9 ต.ค.51
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--