กองทัพย้ำตรึงกำลังแนวชายแดนไทย-เขมรรักษาอธิปไตย แต่ยังหนุนใช้การเจรจา

ข่าวทั่วไป Tuesday October 14, 2008 17:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก แถลงว่า ที่ประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพมีมติว่ากองทัพจะยังคงกำลังทหารอยู่ในพื้นที่พิพาทแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเพื่อปกป้องอธิปไตยของไทยเพราะทั้งไทยและกัมพูชายังคงอ้างสิทธิเหนือพื้นที่นั้น และยังไม่สามารถบรรลุการเจรจาตกลงกันได้แม้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

“ทั้ง 3 เหล่าทัพยืนยันว่ากองทัพมีความพร้อมทั้งทางด้านกำลังเผชิญหน้าในพื้นที่ และกำลังสนับสนุนรวมถึงศักยภาพอาวุธยุทโธปกรณ์ในการปกป้องรักษาอธิปไตย"พ.อ.สรรเสริญ กล่าวภายหลังการประชุมของผู้นำเหล่าทัพ

สำหรับประชาชนที่อาศัยและประกอบอาชีพในกัมพูชา เป็นดุลยพินิจของกระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาล ในการพิจารณาความเหมาะสมในการเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งกองทัพบกได้ประสานงานกับทุกเหล่าทัพเพื่อเตรียมแผนที่จะสนับสนุนการอพยพคนไทยในกัมพูชาไว้พร้อมแล้ว รอเพียงคำสั่งจากรัฐบาลเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่กัมพูชาเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีเส้นเขตแดนติดต่อกัน การแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการเจรจาระหว่างทั้งสองประเทศน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด และฝ่ายไทยก็ยังพร้อมจะดำเนินการต่อไป โดยยืนยันว่าประเทศไทยจะไม่เป็นฝ่ายรุกรานใครก่อน แต่หากกัมพูชามีการรุกล้ำเข้ามาในดินแดนดังกล่าว ไทยก็มีความพร้อมในการเผชิญกับสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยเหนือดินแดนของไทย

ทางด้านนายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าวว่า หากกัมพูชาหันไปใช้กำลังในการแก้ปัญหาตามที่มีการยื่นคำขาดไทยจำเป็นต้องใช้สิทธิในการป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติ เพื่อปกป้องบุคลากรที่ทำการเก็บกู้กับระเบิดและอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย

ไทยได้เรียกร้องมาตลอดและยืนยันจะแก้ปัญหาโดยสันติวิธีผ่านช่องทางการหารือ โดยรมว.ต่างประเทศของไทยกัมพูชา ได้ตกลงในการประชุมที่เสียมราฐ และอ.ชะอำ เมื่อวันที่ 28 ก.ค. และ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา และทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันมุ่งมั่นจะยับยั้งชั่งใจจนถึงที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าด้วยกำลังอาวุธ ซึ่งนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ ได้ย้ำกับกัมพูชาในระหว่างการเยือนกัมพูชา เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยไทยได้ยึดตามความมุ่งมั่นดังกล่าวนี้เคร่งครัด และหวังว่ากัมพูชาจะทำเช่นเดียวกัน

นายธฤตกล่าวด้วยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ออกประกาศเตือนคนไทยที่จะเดินทางไปยังประเทศกัมพูชาให้ตรึกตรองและติดตามข้อมูลสถานการณ์ของ 2 ประเทศอย่างใกล้ชิด หากไม่จำเป็นขอให้เลื่อนการเดินทางออกไปก่อน รวมทั้งคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วยเช่นกัน โดยแนะนำว่าหากไม่มีความจำเป็นใดๆ ขอให้เดินทางกลับประเทศไทย เพื่อดูท่าทีเสียก่อน

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งท่าทีของไทยไปยังสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก รวมถึงได้แจ้งให้สถานทูตต่างประเทศ ทูตทหาร องค์การระหว่างประเทศและองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) ที่ประจำการในประเทศไทยได้รับทราบถึงเหตุการณ์ความตึงเครียดหลังจากฝ่ายกัมพูชาแถลง โดยฝ่ายไทยยืนยันว่ายังคงยึดมั่นในการเจรจาอย่างสันติวิธีภายใต้กรอบทวิภาคีที่มีอยู่ และไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะใช้กำลังในการแก้ไขปัญหาชายแดนเพราะไม่ใช่แนวทางปฏิบัติตามรรลองระหว่างประเทศ

นายธฤต กล่าวอีกว่า ในช่วงเย็นวันนี้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศเตรียมเชิญเอกอัครราชทูตอาเซียนและประเทศคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติรับทราบข้อมูลความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาล่าสุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ