นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ระบุว่า สถานการณ์การปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาในวันนี้ไม่ถือว่าเป็นเหตุปะทะกันรุนแรงและขณะนี้สงบลงแล้ว เชื่อว่าจะสามารถหาข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ ซึ่งไทยยังคงยึดหลักการอยู่ร่วมกันโดยใช้สันติวิธี เพราะไทยและกัมพูชามีชายแดนติดต่อกัน ดังนั้น เรื่องกระทบกระทั่งกันอาจจะต้องมีบ้างเป็นธรรมดา
"ไทย-กัมพูชามีชายแดนติดกัน ดังนั้นต้องอยู่ร่วมกันโดยยึดหลักสันติวิธี และการเจรจา บางครั้งอาจมีการกระทบกระทั่งกัน...เชื่อเหตุการณ์จะยุติ และสามารถหาข้อเท็จจริงได้ว่าต่อไปจะต้องดำเนินการอย่างไร" นายกรัฐมนตรี ระบุ
ทั้งนี้ ได้รับรายงานยืนยันว่าทหารกัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงเข้ามาก่อน และการปะทะกันครั้งนี้ส่งผลให้ทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย แต่ตัวเลขดังกล่าวอาจยังไม่แน่นอน เพราะเป็นรายงานด่วนที่เข้ามาในขณะนั้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า เย็นนี้กระทรวงการต่างประเทศจะเชิญเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยเพื่อมารับบันทึกช่วยจำว่าเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากทหารไทยเป็นฝ่ายเปิดฉากก่อน
"วันนี้จะเชิญทูตกัมพูชามายื่นบันทึกช่วยจำ ว่าเหตุที่เกิดเรายืนยันว่าเราจะไม่เป็นฝ่ายเปิดฉากใช้กำลังหรือใช้ความรุนแรงก่อน...เหตุที่เกิดขึ้นเราจำเป็นต้องยื่นหนังสือบันทึกช่วยจำ ให้ท่านทูตฯ ได้นำไปถามรัฐบาลกัมพูชา ตอนนี้เหตุการณ์สงบแล้ว...ได้รับรายงานว่ากระสุนมาจากทางนั้นก่อน" นายกรัฐมนตรี กล่าว