ผู้นำทุกเหล่าทัพประกาศกองทัพไทยเตรียมพร้อมรับที่จะรักษาเกียรติภูมิและอธิปไตยของชาติ หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากเมื่อช่วงบ่ายวานนี้(15 ต.ค.)กองกำลังของทั้งสองประเทศที่รักษาการณ์อยู่บริเวณชายแดนใกล้ปราสาทพระวิหารเกิดการปะทะกันจนต่างฝ่ายมีทหารได้รับบาดเจ็บ
"เราได้เตรียมการที่จะรับสถานการณ์ตามคำกล่าวของผู้นำกัมพูชา...เราวางกำลังพร้อมที่จะรับสถานการณ์ทุกรูปแบบ เพื่อรักษาเกียรติภูมิและอธิปไตยของประเทศชาติ" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวทางรายการโทรทัศน์เย็นนี้
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ปะทะกันครั้งนี้ยากที่จะประเมินได้ว่ามีบุคคลใดชักใยอยู่เบื้องหลัง หลังมีผู้ออกมาตั้งข้อสังเกตุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาจอยู่เบื้องหลังประสานกับกัมพูชาทำให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นความขัดแย้งในประเทศ
"เป็นเรื่องลึกซึ้งที่ยากจะรู้ได้" พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
ขณะที่ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.สส.) พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ., พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ(ผบ.ทร.), พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.) และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ร่วมแถลงท่าทีของกองทัพไทยต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า เหตุปะทะกันเมื่อวานนี้ไม่น่าที่จะเกิดขึ้น แต่ขณะนี้สถานการณ์กลับไปสู่ขั้นตอนการเจรจาแล้ว โดยหลังจากการพูดคุยระหว่างแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทยกับเจ้าหน้าที่กัมพูชาแล้วจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 21 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ ผบ.สส.ยืนยันว่า ทุกเหล่าทัพมีแผนรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไว้ทั้งหมดแล้ว ขณะที่ ผบ.ทอ.และ ผบ.ทร.ต่างยืนยันความพร้อมที่จะปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือคนไทยที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และอยู่ในกรุงพนมเปญ