ชาวบ้านชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณเขาพระวิหารเปิดเผยว่า ราคาที่ดินบริเวณตีนเขาพระวิหารปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ปราสาทพระวิหาร โบราณสถานอายุ 900 ปีซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก (UNESCO) เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
ราคาที่ดินขนาด 1,000 ตารางเมตรพุ่งขึ้นสูงสุดถึง 10,000 ดอลลาร์ จากที่เคยขายกันในราคา 2,000 ดอลลาร์สหรัฐก่อนหน้านี้ Sean Kim ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพขับแท็กซี่เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัว พร้อมกับระบุว่า เขาพระวิหารจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง และชาวบ้านจากจังหวัดอื่นๆ จะอพยพมาอยู่ที่บริเวณนี้เพิ่มมากขึ้น
เขากล่าวว่า ที่ดินส่วนใหญ่ในบริเวณนี้ถือครองโดยสำนักงานปราสาทพระวิหารแห่งชาติ เพื่อคุ้มครองและอนุรักษ์ตัวปราสาท ตลอดจนป่าไม้ และสภาพแวดล้อม
"ผมหวังว่ารัฐบาลจะสร้างตลาดขึ้นที่นี่เร็วๆนี้" Sean กล่าว พร้อมกับเสริมว่า บริเวณเชิงเขาพระวิหารในปัจจุบันก็ยังไม่มีสถานีรถโดยสาร เป็นเรื่องยากที่จะเรียกแท็กซี่จากบริเวณนี้เข้าเมืองหรือจังหวัดใกล้ๆ นอกจากนี้ ค่าแท็กซี่และอาหารในปัจจุบันก็มีราคาแพงอีกด้วย
ด้าน Neang Kheng แม่ค้าขายอาหาร กล่าวกับซินหัวถึงสาเหตุที่ราคาอาหารแพงว่าเป็นเพราะเธอต้องไปซื้อเครื่องปรุงทั้งหลายมาจากจังหวัดอื่นๆ ในขณะที่การเดินทางไม่สะดวกเนื่องจากถนนหนทางไม่ดี นอกจากนี้ การเผชิญหน้าทางทหารระหว่างกัมพูชาและไทยก็ส่งผลต่อการทำมาค้าขายและการใช้ชีวิตของชาวบ้านบริเวณตีนภูเขา