เอแบคโพลเผยคนไทยสุขต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีจากปัญหาการเมืองขัดแย้งบานปลาย

ข่าวทั่วไป Sunday November 16, 2008 10:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน(ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจความสุขมวลรวมของคนไทยประจำเดือนต.ค - ต้นเดือนพ.ย.51 พบว่า ความสุขมวลรวมของคนไทยลดลงต่ำสุดตั้งแต่เคยทำวิจัยความสุขมาในรอบ 34 เดือน โดยดัชนีความสุขมวลรวมในผลวิจัยครั้งนี้อยู่ที่ 4.84 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ลดลงจาก 5.64 ในการสำรวจช่วงเดือนก.ย.ที่ผ่านมา

นายนพดล กรรณิกา ผ.อ.ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน กล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ความสุขของประชาชนลดต่ำลงในทุกภูมิภาคและต่ำสุดในรอบ 34 เดือน คือ ความขัดแย้งรุนแรงบานปลายทางการเมืองจนมีเหตุทำให้ประชาชนคนไทยด้วยกันบาดเจ็บล้มตาย ปัญหาหลักธรรมาภิบาลของรัฐบาล ปัญหาจริยธรรมทางการเมืองของนักการเมือง และปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน ส่งผลทำให้เกิดความเครียดสะสมในกลุ่มประชาชนทุกเพศทุกวัย ทุกระดับชั้นของสังคม

ประชาชนเกินกว่าครึ่งหรือ 56.9% เห็นว่ารัฐบาลมีปัญหาด้านหลักธรรมาภิบาล เช่น ไม่มีความสง่างาม ไม่ชอบธรรม มีปัญหาด้านจริยธรรมทางการเมือง มีความเคลือบแคลงสงสัยในหมู่ประชาชนต่อรัฐบาล และผลประเมินความสุขมวลรวมในคนกลุ่มนี้พบว่ามีความสุขมวลรวมเพียง 4.60 เท่านั้น ขณะที่ประชาชน 43.1% เห็นว่ารัฐบาลไม่มีปัญหาด้านหลักธรรมาภิบาล เพราะยังคงมีความสง่างาม มีความชอบธรรมอยู่ และผลวิจัยพบว่าประชาชนกลุ่มนี้มีความสุขสูงกว่าคือมีความสุขอยู่ที่ 5.14

ผลสำรวจยังพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ 81.9% ระบุว่าเมื่อมองสถานการณ์การเมืองปัจจุบันแล้วทำให้มีความเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษเพิ่มมากขึ้น และความสุขมวลรวมของคนกลุ่มนี้อยู่ที่ 4.85 ในขณะที่ประชาชน 18.1% กลับมีความเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษลดน้อยลง แต่ความสุขมวลรวมของคนกลุ่มนี้มีค่าเฉลี่ยน้อยกว่าคนกลุ่มแรกคืออยู่ที่ 4.67

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงความหวังต่อความปรองดองของคนในชาติหลังจากติดตามข่าวการเตรียมงานการซ้อมและงานพระราชพิธีต่างๆ แล้ว พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ 71.2% มีความหวังต่อความปรองดองของคนในชาติ ขณะที่ 28.8% ไม่มีความหวัง

ทั้งนี้ผลการจัด 3 อันดับของสิ่งที่จะช่วยทำให้ความสุขมวลรวมของประชาชนเพิ่มสูงขึ้น อันดับแรก คือ ประชาชนคนไทยทุกคนปฏิบัติตนด้วยความรักความสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน รองลงมา คือ ทุกกลุ่มทุกฝ่ายหันหน้าจับมือกันต่อหน้าสาธารณชน ช่วยแก้ปัญหาบ้านเมือง และอันดับที่สาม ทุกฝ่ายทุกคนเคารพและยอมรับกระบวนการยุติธรรมตามตัวบทกฎหมาย

ผลการสำรวจดังกล่าว มาจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน 18 จังหวัดของประเทศ คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี เชียงใหม่ ลำพูน นครสวรรค์ ปราจีนบุรี ระยอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครพนม สกลนคร ศรีสะเกษ นครราชสีมา อุบลราชธานี กระบี่ และสุราษฎร์ธานี จำนวนทั้งสิ้น 5,267 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 2 - 15 พ.ย.51


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ