รายงานข่าวเปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้ มีวาระน่าสนใจที่จะเข้าสู่การพิจารณา คือ นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี จะเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงหน่วยงานที่กำกับดูแลตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย(AFET) ไปอยู่ที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) จากปัจจุบันที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงพาณิชย์
ขณะที่มีกระแสข่าวว่านายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ ซึ่งมีปัญหาขัดแย้งกับนายโอฬารในประเด็นโครงการแทรกแซงราคาสิตค้าเกษตรอยู่แล้ว แสดงความไม่พอใจเรื่องดังกล่าว เนื่องจากนายโอฬารไม่ได้หารือก่อนที่จะเสนอเรื่องเข้า ครม. จึงคาดว่านายไชยาจะคัดค้านแนวคิดนี้
นอกจากนั้น กระทรวงการคลังจะเสนอให้ครม.พิจารณาต่ออายุมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ออกไปอีก 1 ปีจนถึงเดือนมี.ค.53 จากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือนมี.ค.52 ซึ่งมาตรการนี้เป็นการลดภาษีธุรกิจเฉพาะจากเดิม 3.3% เหลือ 0.1% เป็นเวลา 1 ปี และลดค่าจดทะเบียนการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01%
ด้านกระทรวงพาณิชย์ จะขอความเห็นชอบปรับลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองลงเหลือ 2% จากปัจจุบันที่ 4% ตลอดทั้งปี 52 โดยไม่จำกัดปริมาณการนำเข้า เพื่อช่วยลดต้นทุนให้แก่ผู้เลี้ยงปศุสัตว์และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้านการส่งออกของไทย
กระทรวงมหาดไทย จะเสนอให้ขึ้นค่าตอบแทน 100% แก่กำนันและผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศ โดยปัจจุบันกำนันได้รับอัตราค่าตอบแทน 5,000 บาท/เดือน ผู้ใหญ่บ้านได้รับ 4,000 บาท/เดือน, แพทย์ประจำตำบล, สารวัตรกำนัน, ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ ได้รับ 2,500 บาท/เดือน
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายแทนกรุงเทพมหานคร(กทม.)
กระทรวงกลาโหมจะนำเสนอการปรับโครงสร้างใหม่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) ตาม พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 โดยจะเน้นดูแลความมั่นคงของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งแตกต่างจากอดีตที่จะดูแลเฉพาะกำลังของทหารหรือภัยจากการสู้รบ และปัจจุบัน กอ.รมน.ยังได้กำหนดภัยคุกคามรูปแบบใหม่ให้สอดคล้องกับความมั่นคงของประชาชนด้วย