เมืองเวนิสของอิตาลี กำลังเผชิญอุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 22 ปี โดยศูนย์ตรวจสอบระดับน้ำขึ้น-น้ำลงของเวนิสแจ้งว่า ระดับน้ำสูงขึ้นถึง 1.56 เมตร ส่งผลให้ทางการเวนิสประกาศเตือนผ่านเครื่องขยายเสียงเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นวานนี้ ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวอยู่ภายในที่พัก ขณะที่บริการเรือเฟอร์รี่ ซึ่งเป็นช่องทางคมนาคมขนส่งสาธารณะหลักของเมือง ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว ขณะที่ มีการพยากรณ์ว่าจะมีฝนตกลงมาอย่างหนักอีกในวันนี้
มัสซิโม คัคชาริ นายกเทศมนตรีเมืองเวนิส กล่าวว่า "ระดับน้ำสูงมาก ดังนั้นอย่าออกไปข้างนอกถ้าท่านไม่มีกิจธุระจำเป็นจริงๆ"
ทั้งนี้ เวนิสประสบอุทกภัยบ่อยครั้งมาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 13 อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งล่าสุดนี้ถือได้ว่าอันตรายสำหรับเวนิส ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองประวัติศาสตร์ของโลกและสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเยือนได้ปีละกว่า 16 ล้านคน เนื่องจากปัจจุบัน อาคารต่างๆที่ตั้งอยู่ในเมือง เวนิส กำลังประสบปัญหาจมลงเรื่อยๆ อันเนื่องมาจากระดับน้ำทำเลหนุนสูง และกระแสลมได้พัดพาน้ำทะเลไหลทะลักเข้ามาสู่คูคลองในเวนิส ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมหลักของเมือง
จากผลการสำรวตระดับน้ำในเมืองเวนิสระหว่างปี 1923-2003 พบว่าเดือนพ.ย.เป็นช่วงเวลาที่เวนิสต้องประสบกับภาวะน้ำท่วมหรือน้ำไหลทะลักเข้าเมืองมากที่สุด โดยระดับน้ำขึ้น-น้ำลงเกินระดับ 1.10 เมตร ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมถึง 65 ครั้งในเดือนพ.ย. โดยเฉพาะในปี 1986 ซึ่งระดับน้ำสูงขึ้นถึง 1.59 เมตร
ส่วนครั้งที่รุนแรงที่สุดเกิดขึ้นในปี 1966 เมื่อระดับน้ำพุ่งสูงถึง 1.94 เมตร ส่งผลให้ชาวเวนิสประมาณ 5,000 คนต้องเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน และปัจจุบันระดับน้ำหนุนสูงก็ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ในเวนิสปีละหลายครั้ง อีกทั้งยังสร้างความเสียหายให้แก่อาคารโบราณสถานต่างๆด้วย
โดยรัฐบาลของอิตาลีสมัยของอดีตนายกรัฐมนตรี โรมาโน โพรดิ ในปี 2006 ได้อนุมัติโครงการมูลค่า 4.6 พันล้านยูโร (5.8 พันล้านดอลลาร์) เพื่อสร้างทำนบที่มีประตูระบายน้ำเพื่อป้องกันเมือง อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและประสบปัญหาขาดเงินทุน