ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคพลังประชาชน ชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย รวมทั้งเพิกถอนสิทธิทางการเมืองแก่กรรมการบริหารพรรค 5 ปี ทีมงานของนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์, นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์, และ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รมช.พาณิชย์ ทยอยเก็บของใช้ส่วนตัวออกจากห้องทำงานไปจนหมด พร้อมเปิดโอกาสให้ข้าราชการระดับสูงเข้ามอบช่อดอกไม้ และยังฝากงานให้แก่รัฐมนตรีใหม่
โดยนายไชยา กล่าวว่า ฝากให้รัฐมนตรีคนใหม่ดูแลในเรื่องการให้ไทยเป็นผู้นำกำหนดราคาข้าวโลก และส่งออกข้าวให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร รวมถึงผลักดันการส่งออกให้เติบโตขึ้น โดยจะใช้ชีวิตหลังจากนี้เพื่อพักผ่อนอยู่กับบ้านและปลูกต้นไม้
ส่วนความเห็นหากศาลตัดสินไม่ยุบพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาฯ เชื่อว่าอาจมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองได้ แต่เมื่อตัดสินให้ยุบพรรคเหมือนกันหมดก็เท่ากับว่าทุกพรรคตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันและยิ่งทำให้จับขั้วกันแน่นขึ้น พร้อมเชื่อว่าขั้วรัฐบาลเดิมน่าจะได้จัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะมีจำนวนเสียง ส.ส.เพียงพอ และมากกว่าขั้วพรรคฝ่ายค้าน
ส่วนคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น คนที่มาแรงน่าจะเป็น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข เพราะมีภาษีดีกว่าคนอื่น แต่หากไม่ถูกใจประชาชนก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของขั้วรัฐบาลเดิมในขณะนี้
ด้าน พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวว่า การตัดสินยุบ 3 พรรคการเมืองครั้งนี้ เหมือนเป็นการกวาดต้อน 3 พรรคให้ต้องมารวมกัน และยืนยันว่าหลังจากนี้ยังยืนหยัดร่วมมือทางการเมืองเหมือนเดิม แม้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจะถูกตัดสิทธิไปบ้าง แต่คำนวณแล้วยังมีเก้าอี้ ส.ส.เพียงพอ เกินกึ่งหนึ่งอยู่หลายที่นั่งสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ส่วน ส.ส.ของพรรค ได้เตรียมหาทางออก ตั้งพรรคสำรองไว้แล้ว
"เมื่อผลตัดสินออกมาแบบนี้ ก็ทำให้ทุกพรรคมารวมกัน เพราะผมคำนวณแล้ว หากจับขั้วกันเหมือนเดิมพรรคร่วมรัฐบาลจะมีเก้าอี้ในสภา 283 ที่นั่ง แต่หากเปลี่ยนแปลงสลับขั้วไปรวมกับพรรคประชาธิปัตย์จะมี ส.ส.เพียง 228 ที่นั่ง เกินครึ่งที่ 224 ที่นั่ง เพียงเล็กน้อยเท่านั้นซึ่งน้อยมาก" พ.ต.ท.บรรยินกล่าว
ส่วนการเสนอชื่อบุคคลเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ขณะนี้ทราบตามที่เป็นข่าว คือ ร.ต.อ.เฉลิม, นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์, พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งในความเห็นของพรรคมัชฌิมาฯ จะเป็นใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่นายมิ่งขวัญ เพราะหากมีมิ่งขวัญจะไม่มีพรรคมัชฌิมาอยู่ด้วย