สหภาพยุโรป หรืออียู ได้เรียกร้องให้รัสเซียดำเนินการส่งก๊าซให้กับประเทศสมาชิกของอียูตามเดิมเป็นการด่วน หลังจากที่ฮังการีและโปแลนด์ได้รับความเดือดร้อนจากปริมาณการส่งน้ำมันที่ลดลง อันสืบเนื่องจากกรณีข้อพิพาทระหว่างรัสเซียกับยูเครน
สาธารณรัฐเชค ซึ่งเป็นประธานของอียูในขณะนี้ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัสเซียแก้ปัญหาข้อพิพาทเรื่องการส่งก๊าซไปยังยูเครน และเร่งให้มีการส่งก๊าซไปยังประเทศสมาชิกอียูในทันที พร้อมทั้งระบุว่าทางอียูจะจับตาดูสถานการณ์ในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ฮังการีกำลังได้รับผลกระทบจากการส่งก๊าซที่ลดลง 10 ล้านลูกบาศก์เมตรของปริมาณน้ำมันที่ต้องส่งให้ตามสัญญาทั้งสิ้น 24 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่บริษัทก๊าซ ซิสเต็มของโปแลนด์เปิดเผยว่า ปริมาณการส่งก๊าซจากยูเครนลดลงราว 6%
ทั้งนี้ รัสเซียได้ยุติการส่งก๊าซธรรมชาติให้กับยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการชำระหนี้และการทำสัญญาฉบับใหม่สำหรับปี 2552 ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้จุดชนวนให้หลายฝ่ายเกิดความวิตกกังวลว่า การลำเลียงน้ำมันไปยังยุโรปอาจได้รับผลกระทบนับตั้งแต่กลุ่มประเทศสมาชิกอียูได้รับก๊าซจากรัสเซียผ่านทางเส้นทางลำเลียงก๊าซเส้นหลักของยูเครน
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการด้านพลังงานของอียูกล่าวว่า เขาจะติดต่อกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อระบุถึงเงื่อนไขต่างๆของการซื้อขาย และเรียกร้องให้รัสเซียกลับมาส่งก๊าซให้กับประเทศสมาชิกอียูเต็มร้อยเปอร์เซนต์
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของสาธารณรัฐเชคกล่าวว่าจะมีการจัดประชุมพิเศษของผู้แทนสหภาพยุโรป 27 ชาติในวันจันทร์นี้เพื่อหารือถึงวิกฤติการณ์การส่งก๊าซที่เกิดขึ้น