พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า กรณีการปาไข่ไปยังบุคคลอื่นถือเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ซึ่งจะมีทั้งโทษปรับและจำคุก จึงอยากกล่าวเตือนด้วยความหวังดีไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมที่กระทำเหตุดังกล่าว เนื่องจากเคยมีกรณีทำนองนี้เกิดขึ้นมาก่อน และถึงแม้ผู้ถูกกระทำจะไม่เอาผิดแต่ก็ถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดอาญาแผ่นดินจึงไม่สามารถยอมความได้ ดังนั้น จึงอยากให้ผู้ชุมนุมดำเนินการชุมนุมกันอย่างสงบ ปราศจากอาวุธ และไม่ละเมิดต่อกฎหมายบ้านเมืองเพราะถือเป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้
พล.ต.อ.จงรักฯ กล่าวว่า ในการดำเนินคดีกับกลุ่มคนเสื้อเหลืองที่ยึดทำเนียบรัฐบาล ตลอดจนสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมินั้น ตำรวจไม่ได้ละเลยและได้สอบสวนมาตั้งแต่หลังเกิดเหตุใหม่ๆ ซึ่งขณะนี้ได้ตรวจสอบพยานบุคคลไปแล้วกว่า 200 ปาก และมีความคืบหน้าไปแล้วร้อยละ 70 โดยมีการประชุมมาโดยตลอด ซึ่งในวันอังคารนี้จะมีการประชุมกันอีก แต่เหตุที่ต้องใช้ระยะเวลาเพราะเป็นการกล่าวหาว่าได้กระทำความผิดเกี่ยวกับการมั่วสุม ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง บุกรุก ทำให้เสียทรัพย์และความผิดฐานอื่นๆ ซึ่งถือเป็นความผิดสำคัญ มีอัตราโทษสูง ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะฉะนั้น ขอยืนยันว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มิได้ละเว้นการดำเนินการใดๆ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเสื้อเหลืองและเสื้อแดง
อย่างไรก็ตาม กรณีรักษาความปลอดภัยแก่บุคคลสำคัญในการลงพื้นที่ไปยังจุดต่างๆ ขณะนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งให้ตำรวจในพื้นที่ดูแลอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น นอกจากนี้ได้เพิ่มกำลังพิเศษและตำรวจติดตามดูแลความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรีในการลงพื้นที่ไปยังสถานที่ต่างๆ ด้วย