นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า มีแนวคิดการจัดระเบียบเรือนจำทั่วประเทศเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องขังเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งจัดระเบียบการตรวจค้นสิ่งของต้องห้ามต่างๆ ที่ผู้ต้องขังนำมา หรือญาติฝากมาให้ เพื่อให้เรือนจำมีความเป็นระเบียบมากขึ้น
โดยจะเน้นเรือนจำที่มีความมั่นคงสูง และเป็นเรือนจำที่มีผู้ต้องขังรายสำคัญ 5 แห่ง คือ เรือนจำกลางบางขวาง, เรือนจำกลางคลองเปรม, เรือนจำกลางเขาบิน, เรือนจำกลางคลองไผ่ และสถานบำบัดพิเศษกลาง ซึ่งจะมีการสนธิกำลังกับหน่วยงานอื่นๆ ในการขอกำลังช่วยตรวจค้น
เนื่องจากเรือนจำทั้ง 5 แห่งเป็นเรือนจำใหญ่ มีผู้ต้องขังถึง 5 พันคนในแต่ละแห่ง ที่อาจต้องใช้เวลาตรวจค้นเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อให้ครอบคลุมทั่วทุกตารางนิ้ว จากนั้นเป็นหน้าที่ของเรือนจำที่จะดำเนินการเอง หากยังมีสิ่งของต้องห้ามเรือนจำจะต้องรับผิดชอบ ส่วนเรือนจำอื่นๆ ทั่วประเทศให้เรือนจำดำเนินการเอง
อย่างไรก็ตามนอกจากการจัดระเบียบเรือนจำแล้ว กรมราชทัณฑ์ยังจะนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการตรวจค้นตัวบุคคล รถและสิ่งของต่างๆ ที่เข้าออกเรือนจำทุกคัน ซึ่งขณะนี้กำลังประสานกับกองทัพ เพื่อขอให้ทหารมาช่วยในการควบคุมดูแล และฝึกวินัยผู้ต้องขัง แทนการขาดแคลนอัตรากำลังของทางเรือนจำ