นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เตรียมขอความร่วมมือไปยังทุกภาคส่วนทั้งภาคเอกชนรวมถึงและเอ็นจีโอเพื่อให้เข้ามาช่วยกันดูแลโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน(โครงการหมู่บ้านSMLเดิม) ที่ขณะนี้พบว่าหมู่บ้านและชุมชนที่ได้รับเงินจากรัฐบาลไปแล้วกว่า 20,000 หมู่บ้าน จากทั้งหมด 70,000 หมู่บ้าน ประสบความสำเร็จในการดำเนินโครงการดังกล่าว
ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องการผู้ที่มีประสบการณ์และมีความสามารถเข้ามาช่วยดูแลและต่อยอดให้กับหมู่บ้านและชุมชนเหล่านี้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ยากก็ตาม
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณกลางปีจำนวน 15,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ไม่รวมงบประมาณเดิมที่ยังเหลืออยู่ประมาณ 6,000 ล้านบาท และยังโอนไม่หมด
ด้านนายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ(สทบ.) เสนอให้รัฐบาลพิจารณาแพ็คเกจบริหารจัดการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองในปี 52 เพื่อรื้อฟื้นการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านฯ ทั่วประเทศทั้ง 78,013 แห่งใหม่หมดให้เข้มแข็ง เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไว้ 5 แนวทาง ประกอบด้วย การสำรวจความต้องการของแต่ละหมู่บ้านใหม่หมดทั้งฐานะการเงิน, ความพร้อมในการดำเนินงาน, การให้ความรู้ด้านบัญชีและกฎหมาย, เร่งส่งเสริมอาชีพและบริหารจัดการทุน และการสร้งความเข้มแข็งด้านการตลาดให้กับกองทุนหมู่บ้านฯ
ผอ.สทบ. กล่าวว่า หลังจากกองทุนหมู่บ้านมีเครือข่ายการตลาดที่เข้มแข็งแล้ว เตรียมจะสร้างแบรนด์ "กทบ." ให้กับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของแต่ละหมู่บ้าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคหรือตลาดทั่วไปว่าสินค้าของกองทุนหมู่บ้านฯ ที่มีตรา "กทบ." รับรองว่า เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ โดยทำคู่ขนานไปกับผลิตภัณฑ์ OTOP ควบคู่ไปกับการจัดทำศูนย์เรียนรู้ชุมชนเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ประสบ การณ์ ระหว่างสมาชิกของกองทุนหมู่บ้านฯ และเยาวชนของแต่ละกองทุน