สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจภาพลักษณ์ตำรวจไทยกับการเมืองระดับประเทศ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ถึง 74.19% คิดว่าตำรวจไทยถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองมาโดยตลอดทุกรัฐบาล และส่วนใหญ่ต่างเห็นด้วยต่อแนวทางการปฏิรูประบบราชการตำรวจให้ปลอดการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง
ส่วนการสำรวจความพึงพอใจโดยภาพรวมต่อการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจระดับสถานีตำรวจ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 47.8% พอใจต่อการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนที่ไม่พอใจมี 9.8%
สำหรับประสบการณ์ทางบวกในการเข้าไปใช้บริการที่สถานีตำรวจ พบว่า เจ้าหน้าที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ยิ้มแย้มเป็นมิตรกับประชาชน, ให้บริการและคำแนะนำที่ดี, ขยันตั้งใจทำงาน และเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือประชาชน ขณะที่ประสบการณ์ทางลบ พบว่า จำนวนเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ไม่เพียงพอ, ขาดอุปกรณ์ที่ทันสมัย และมีการพูดจาคุกคามข่มขู่ เป็นต้น
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ ระบุว่า ผลสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาตำรวจอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรง แต่ประชาชนที่เคยสัมผัสตรงกับการให้บริการที่สถานีตำรวจส่วนใหญ่เห็นว่าตำรวจมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เป็นมิตรกับประชาชน ให้บริการและแนะนำที่ดี ถึงแม้ในภาพใหญ่ภาพลักษณ์ของตำรวจจะถูกมองว่าฝ่ายการเมืองในทุกรัฐบาลเข้ามาแทรกแซงการทำงาน โดยมักจะใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือรักษาฐานอำนาจของตนก็ตาม รวมถึงมีการแต่งตั้งโยกย้ายก็มีบัญชีเด็กฝากจำนวนมาก
"หากปล่อยไว้เช่นนี้ ตำรวจทั้งระดับนโยบายและระดับท้องที่จะไม่มีความเป็นตัวของตัวเองในการแก้ไขปัญหาของสังคม และมีข้อจำกัดในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาชนอย่างท่าเทียมได้ตามอุดมการณ์ของตำรวจในอุดมคติ ผลที่ตามมาคือ คนทั่วไปส่วนใหญ่จะไม่สามารถเรียกหาความเป็นธรรมและความสงบสุขแท้จริงจากกระบวนการยุติธรรมแห่งนี้" นายนพดล ระบุ
ผลการสำรวจความคิดเห็นดังกล่าว มาจากประชาชนในเขตกรุงเทพฯ และจังหวัดปริมณฑล จำนวน 2,231 ราย ดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 19-20 ม.ค.52