นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะระหว่างวันที่ 5-7 ก.พ.นี้ มีวัตถุประสงค์สำคัญ 4 ประการ คือ 1.เพื่อฟื้นฟูภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทย 2.เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักธุรกิจและนักลงทุนของญี่ปุ่นต่อศักยภาพของประเทศไทยและตลาดไทย 3.เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นให้เดินทางมาประเทศไทยมากขึ้น 4.เพื่อชี้แจงนโยบายของรัฐบาลไทย โดยเฉพาะนโยบายด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว รวมทั้งรายงานสถานการณ์ทางการเมืองของไทยแก่ชาวญี่ปุ่นและรัฐบาลญี่ปุ่นว่าสถานการณ์ได้กลับสู่ภาวะที่มีเสถียรภาพมากขึ้น
สำหรับภารกิจสำคัญของนายกรัฐมนตรี คือ การกล่าวสุนทุรพจน์ในงานสัมมนา "ทิศทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของประเทศไทย" โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ชี้แจงแนวทางนโยบายด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนของประเทศไทย ทั้งนโยบายระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ของนโยบายในด้านการลงทุน และการท่องเที่ยว
ส่วนการหารือระดับทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในครั้งนี้ถือเป็นการพบปะกันระหว่างนายกรัฐมนตรีของทั้ง 2 ประเทศในรอบ 2 ปี ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีในการเจรจาสานต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและญี่ปุ่น และยังสามารถใช้โอกาสนี้แสดงภาวะผู้นำในฐานะประธานอาเซียนอีก รวมถึงจะพบปะกับสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่นด้วย
ทั้งนี้ในแง่การลงทุนจะพบว่า 35.89% ของการลงทุนต่างประเทศทั้งหมดของไทยมาจากนักลงทุนญี่ปุ่น และจำนวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นสูงเป็นอันดับ 2 จากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และหลังจากมีข้อตกลง JTEPA แล้วทำให้การค้าการลงทุนระหว่างกันเพิ่มขึ้นเกือบ 20%