เอนิตา เรสตู อากริตา โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เปิดเผยว่า UNHCR กำลังพยายามยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือชาวโรฮิงยาที่บริเวณชายฝั่งในจังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเซีย
"เรากังวลเรื่องนี้มาก เรายังคงพยายามยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือชาวโรฮิงยาที่ลอยเรืออยู่ชายฝั่งจังหวัดอาเจะห์เพื่อดูว่าพวกเขาต้องการอะไรบ้าง เราคาดหวังว่าจะได้รับคำตอบจากรัฐบาลอาเจะห์ในเร็วๆนี้" โฆษก UNHCR กล่าวกับสำนักข่าวแอนทารา
รายงานระบุว่า มีชาวโรฮิงยาประมาณ 173 คนอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งเมืองซาบังของจังหวัดอาเจะห์ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. โดยชาวโรฮิงยาเหล่านี้ไม่ได้รับการระบุว่าเป็นประชากรของประเทศใด ขณะที่รัฐบาลพม่ายืนยันว่าโรฮิงยาไม่ได้เป็นชาวพม่า
ด้านกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียกำลังดำเนินการตรวจสอบและสอบถามชาวโรฮิงยาเพื่อขอข้อมูลก่อนที่จะตัดสินใจว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป
"เราคาดหวังว่ากระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียจะทบทวนมติของ UNHCR ในเรื่องชาวโรฮิงยา" โฆษก UNHCH กล่าว
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทางการอินโดนีเซียพบชาวโรฮิงยา 198 คนที่ล่องเรืออยู่บริเวณนอกชายฝั่งจังหวัดอาเจะห์ หลังจากร่อนเร่อยู่ในทะเลเป็นเวลาถึง 21 วัน ซึ่งบางคนอยู่ในสภาพร่างกายที่ย่ำแย่ ทั้งนี้ ทางการอาเจะห์ตะวันออกได้เข้ามาดูแลให้ความช่วยเหลือชั่วคราวแก่ชาวโรฮิงยาทั้ง 198 คน โดยได้ส่งชาวโรฮิงยา 50 คนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลไอดีรายุค เนื่องจากมีอาการขาดน้ำและอาหาร
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ชาวโรฮิงยาซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนระหว่างบังคลาเทศและพม่า