นายกฯออสซี่ยืนยันใช้ระบบเตือนภัยไฟป่าล่วงหน้า ขณะ S&P ประเมินความเสียหายกว่า $2 พันล้าน

ข่าวต่างประเทศ Friday February 13, 2009 12:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เควิน รัดด์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ให้คำมั่นสัญญาว่ารัฐบาลจะติดตั้งระบบเตือนภัยไฟป่าล่วงหน้า หลังจากเกิดโศกนาฏกรรมไฟป่าครั้งรุนแรงที่คร่าชีวิตประชาชนจำนวนมากและสร้างความเสียหายทั่วพื้นที่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย

"ผมต้องการเห็นระบบเตือนภัยไฟป่าล่วงหน้าทั่วประเทศ หากระบบนี้จะช่วยเตือนภัยคนทั้งประเทศให้รู้ล่วงหน้าได้ เราก็จะทำ" นายกฯออสเตรเลียกล่าวให้สัมภาษณ์ในระหว่างดำเนินรายการโทรทัศน์การกุศลเพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากไฟป่าในรัฐวิคตอเรีย

ยอดผู้เสียชีวิตจากไฟป่าพุ่งเป็น 181 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่นิติเวชวิทยาประเมินว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจมีมากถึง 300 ราย ด้านสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาออสเตรเลียกำลังพิจารณาร่างกฎหมายระบบเตือนภัยล่วงหน้าที่สามารถส่งสัญญาณเตือนไปยังโทรศัพท์มือถือและโทรศัพท์พื้นฐานให้ระวังไฟป่าในพื้นที่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น

สภากาชาดออสเตรเลียระดมทุนได้กว่า 77 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 50.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับผู้ประสบภัยเพลิงไหม้ โดยมีนักแสดงชื่อดังของออสเตรเลีย เช่น รัสเซล โครว์, นิโคล คิดแมน, ออร์แลนโด บลูม ตลอดจน เคธีย์ ฟรีแมน นักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิค นักการเมือง และนักดนตรี กว่า 150 คน เข้าร่วมรายการทีวีเพื่อระดมทุนในครั้งนี้ด้วย

อุณหภูมิ 46.4 องศาเซลเซียสที่ร้อนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ ในเมืองเมลเบิร์น และคลื่นอากาศร้อนที่ปกคลุมทั่วภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย ส่งผลให้สภาพอากาศในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเลวร้ายกว่าที่ออสเตรเลียเคยเผชิญเมื่อเดือนก.พ.ปี 2526 ซึ่งในครั้งนั้นมีประชาชนในรัฐวิคตอเรียและในรัฐเซาท์ออสเตรเลียซึ่งอยู่ติดกันเสียชีวิต 75 คน

สำนักงานป้องกันอัคคีภัยแห่งชาติออสเตรเลียระบุว่า ไฟไหม้ป่าครั้งนี้สร้างความเสียหายต่อพื้นที่กว่า 450,000 เฮคเตอร์ (1.1 ล้านเอเคอร์) ขณะที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประเมินความเสียหายว่าอาจสูงกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เนื่องจากเปลวเพลิงได้สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนกว่า 1,000 หลัง และทำให้มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยสูงถึง 4,200 คน อีกทั้งสร้างความเสียหายต่อหมู่บ้านเล็กๆที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีก 4 แห่งด้วย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ