นายคินหันต์ ยงรัตนกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงรายงานขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ป่วยเป็นวัณโรคประมาณ 16-20 ล้านคน เกือบครึ่งหนึ่งเป็นผู้ป่วยระยะแพร่เชื้อ และมีผู้ป่วยเสียชีวิตปีละประมาณ 1,900,000 คน
สำหรับในส่วนของประเทศไทย องค์การอนามัยโลก ได้จัดอันดับให้ติดอันดับที่ 17 ในกลุ่ม 22 ประเทศทั่วโลก ที่ยังไม่สามารถควบคุมวัณโรคได้ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย "ไมโครแบคทีเรียม ทูเบอร์คูโลซีส" เชื้อดังกล่าวจะแพร่กระจาย เมื่อผู้ป่วย จาม ไอ หัวเราะ ร้องเพลง หรือแม้กระทั่งพูด ก็สามารถแพร่เชื้อออกทางน้ำลาย เชื้อสามารถอยู่ในอากาศได้นาน เมื่อคนหายใจ จะได้รับเชื้อนั้นเข้าในถุงลมในปอด หากร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ มีภูมิคุ้มกันก็สามารถกำจัดเชื้อนั้นได้ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ก็คือ กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ติดเชื้อเอดส์ ผู้ป่วยเป็นโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน และคนในวัยหนุ่มสาว ก็ต้องระมัดระวัง รักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพราะมีโอกาสเป็นวัณโรคได้เช่นกัน
"ทุกคนควรให้ความร่วมมือกันในการป้องกันโรคนี้ โดยการหมั่นดูแลสุขภาพ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการสัมผัส และใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่กำลังมีอาการไอ จาม ควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อแก่ผู้อื่น และเด็กแรกเกิดควรได้รับการฉีดวัคซีน บี.ซี.จี.เพื่อป้องกันวัณโรค ส่วนผู้ที่มีอาการไอเรื้อรังมีไข้ต่ำ อ่อนเพลีย น้ำหนักลดนาน 2 สัปดาห์ขึ้นไปควรไปพบแพทย์โดยเร็ว และถ้าป่วยเป็นวัณโรคแล้ว ก็ต้องรับประทานยาทุกวันติดต่อกันให้ได้ 6 เดือน เพื่อป้องกันเชื้อวัณโรคที่อาจดื้อยาได้"นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กล่าว