ทางการออสเตรเลียได้ผลักดันให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงไฟป่าอพยพออกจากพื้นที่รัฐวิคตอเรีย เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่า ลมที่พัดกรรโชกแรงคืนนี้อาจจะทำให้เกิดไฟป่าจุดปะทุขึ้นมากอีกเหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนก.พ.และสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ในรัฐวิคตอเรีย ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวถึง 210 คน
ทั้งนี้ กำลังลมที่มีกำลังแรงถึง 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอาจจะทำให้เกิดไฟไหม้ได้ และขณะนี้ก็ยังมีบริเวณที่เกิดเหตุไฟไหม้อยู่ถึง 4 จุดที่ยังควบคุมไม่ได้ในพื้นที่ทงตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐวิคตอเรีย
บรูซ เอลสพลิน คณะกรรมการบริการฉุกเฉินของรัฐวิคตอเรีย กล่าวว่า เมื่อมีทั้งลมบวกกับไฟด้วยแล้ว ถือเป็นสถานการณ์ที่ย่ำแย่มาก พายุลมอาจจะทำให้ต้นไม้ล้มทับสายไฟ ประชาชนควรจะอพยพออกไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ ยกเว้นว่าจะมีแผนที่จะดูแลและป้องกันบ้านเรือนของตนเอง
บลูมเบิร์กรายงานว่า เหตุไฟป่าครั้งรุนแรงสุดเมื่อวันที่ 7 ก.พ.หรือที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อเสาร์ทมิฬ หรือ Black Saturday นั้น จุดปะทุขึ้นมาจากกำลังลมที่แรงถึง 125 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประกอบอุณหภูมิที่สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 48 องศาในบางพื้นที่ของรัฐ ซึ่งทำให้บ้านเรือนเสียหายไปถึง 2,000 หลัง และพื้นที่ได้รับความเสียหายกินวงกว้างถึง 450,000 เฮคเตอร์ หรือ 1.1 ล้านเอเคอร์
เควิน มังค์ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานดับเพลิงของรัฐ กล่าวว่า คืนนี้ไปจนถึง 2 วันข้างหน้าคาดว่ากำลังลมจะพัดแรงกว่าเมื่อช่วงที่เกิดเหตุ แม้ว่าจะมีการพยากรณ์อุณหภูมิไว้ว่าจะอยู่ในช่วง 30 องศาขึ้นไปก็ตาม