กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสำปะหลังจากจังหวัดจันทบุรีและสระแก้วจำนวนประมาณ 400 คน เดินทางมาชุมนุมที่บริเวณหน้ากระทรวงพาณิชย์ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา และมีการตั้งเต้นท์ พร้อมด้วยรถขยายเสียง ปิดถนนสนามบินน้ำทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก พร้อมส่งตัวแทนยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ
สำหรับข้อเรียกร้อง 4 ข้อของกลุ่มเกษตรกร ประกอบด้วย 1.ขอให้พิจารณายกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ที่กำหนดให้มันสำปะหลังและข้าวโพดเป็นสินค้าควบคุมตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 11 ก.พ.52 ซึ่งห้ามไม่ให้เกษตรกรนำผลผลิตไปจำนำข้ามเขตจังหวัด 2.ขอให้องค์การคลังสินค้า(อคส.) เปิดรับจำนำมันสำปะหลังให้ครบตามโควตาที่เหลือค้างอยู่และดำเนินการตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ 3.ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งเบิกจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรที่นำมันสำปะหลังไปจำนำไว้แล้ว และ 4.ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผ่อนผันการจับกุมหรือเรียกเก็บเงินจากรถบรรทุกผลผลิตมันสำปะหลังและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีน้ำหนักเกิน โดยผ่อนผันให้เหมือนรถบรรทุกอ้อย
อย่างไรก็ดี ช่วงบ่ายวันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.) จะมีการนำปัญหาเกี่ยวกับมันสำปะหลังเข้าหารือด้วย โดยอาจจะมีการพิจารณาผ่อนปรนเรื่องปริมาณการเคลื่อนย้ายมันสำปะหลังจากเดิมที่กำหนดว่าถ้าปริมาณเกิน 1 ตันจะต้องขออนุญาตก่อนเคลื่อนย้าย ขยายเพิ่มเป็น 5 ตัน ซึ่งเกษตรกรต่างปักหลักรอฟังผลการประชุมดังกล่าว ซึ่งหากได้ผลเป็นที่น่าพอใจก็จะสลายการชุมนุม
ขณะที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คงไม่สามารถทำตามข้อเรียกร้องของเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังจาก จ.จันทบุรี และสระแก้ว ที่ปิดล้อมกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอให้ยกเลิกประกาศให้มันสำปะหลังและข้าวโพดเป็นสินค้าควบคุม แม้ข้อเรียกร้องจะระบุว่า จะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรโดยตรงและไม่สามารถแก้ไขปัญหาการสวมสิทธิหรือลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านได้ก็ตาม
"ให้ยกเลิกทั้งหมดคงทำไม่ได้ ขณะเดียวกันก็จะไม่รับจำนำเพิ่ม เพราะหากรับจำนำเพิ่มจะกลายเป็นว่าเกินกว่าความเป็นจริง เพราะมันสำปะหลังขุดออกมาใกล้เคียงกับที่เรารับจำนำ คือประมาณ 14.5 ล้านตัน เกรงว่าในตลาดจะไม่มีอะไรเหลือ รัฐบาลยังคงเข้าไปรับจำนำมันสำปะหลัง 10 ล้านตันตามเดิม และขณะนี้ยังไม่ทราบบางจังหวัดใดบ้าง ขอดูรายละเอียดในการประชุมวันนี้ก่อน ตรงนี้ขอให้เข้าใจรัฐบาลด้วย" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
ด้านนายประพล มิลินทจินดา เลขานุการ รมว.พาณิชย์ ระบุว่า กรณีที่เกษตรกรขอให้ผ่อนผันปริมาณมันปะหลังที่ต้องแจ้งทุกครั้งก่อนการเคลื่อนย้ายนั้น กระทรวงพาณิชย์พร้อมรับฟังข้อเสนอดังกล่าวเพราะเห็นว่ามีเหตุผลพอสมควร แต่ทั้งนี้จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนนำผลสรุปที่ได้มารายงานให้แก่นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ได้รับทราบก่อน
หากในท้ายสุดเห็นว่าข้อกำหนดเรื่องการเคลื่อนย้ายมันสำปะหลังตามมติ ครม.ก่อนหน้านี้ก่อให้เกิดผลเสียหรือเป็นอุปสรรคต่อการรับจำนำก็ยินดีจะพิจารณาให้ตามข้อเรียกร้องของเกษตรกร แต่ทั้งนี้การผ่อนผันกฎระเบียบดังกล่าวจะต้องไม่ส่งผลกระทบให้มีการสวมสิทธิรับจำนำ หรือการลักลอบนำเข้า รวมทั้งต้องไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการรับจำนำมันสำปะหลังของรัฐบาลด้วย
"เราต้องฟังปัญหาของทุกฝ่าย ถ้าดูแล้วการเคลื่อนย้ายมีปัญหาต่อธุรกิจ ต่อการรับจำนำ และถ้าไม่ได้สร้างความเสียหายต่อการสวมสิทธิ การลักลอบนำเข้า เราก็ยินดีจะพิจารณา วันเสาร์นี้น่าจะได้คำตอบ" เลขานุการ รมว.พาณิชย์ กล่าว