กระทรวงต่างประเทศสหรัฐแสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในทิเบต โดยได้เรียกร้องให้จีนทบทวนนโนบายการปกครองในทิเบตที่อาจสร้างความตึงเครียดและส่งผลกระทบรุนแรงด้านศาสนาและวัฒนธรรมในภูมิภาค
โรเบิร์ต วูด โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวในแถลงการณ์ว่า การเจรจาระหว่างรัฐบาลในกรุงปักกิ่งและตัวแทนขององค์ดาไลลามะ ผู้นำด้านจิตวิญญาณของชาวทิเบตอาจช่วยสร้างเสถียรภาพในภูมิภาคได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน ซึ่งสหรัฐเองให้ความเคารพในการรวมดินแดนของจีนและมองว่าทิเบตเป็นส่วนหนึ่งของจีน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เมื่อวานนี้ชาวทิเบตทั่วโลกได้จัดการชุมนุมรำลึกเหตุการณ์ครบรอบ 50 ปีของการที่ชาวทิเบตลุกฮือต่อต้านการปกครองของจีน โดยองค์ดาไลลามะ ผู้นำจิตวิญญาณพลัดถิ่นของทิเบตระบุว่า ดินแดนทิเบตภายใต้การปกครองของจีนนั้นได้กลายเป็นนรกบนพื้นโลกไปแล้ว
ขณะเดียวกันนางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศของสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐมีความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในจีนซึ่งเป็นประเด็นที่เราไม่สามารถยื่นมือเข้าไปมีส่วนร่วมได้เหมือนกับประเด็นทางเศรษฐกิจหรือภาวะโลกร้อน ขณะที่ทางองค์กรสิทธิมนุษยชนหลายแห่งต่างเรียกร้องให้จีนคำนึงถึงสิทธิความเท่าเที่ยมกันของมนุษย์ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ เมื่อช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยโดยตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอยกับเมื่อปีก่อนที่มีกลุ่มพระสงฆ์เป็นแกนนำชาวทิเบตลุกฮือประท้วงต่อต้านจีนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 20 ปีจนทำให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยของจีนต้องใช้กำลังเข้าปราบปรามอย่างรุนแรง