นายดำริห์ บุญจริง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี แสดงความกังวลต่อการขยายตัวของธุรกิจท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์บนเกาะสมุยที่จะส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำดิบและสิ่งแวดล้อมบนเกาะสมุย โดยจะประสานกับเทศบาลเพื่อให้ออกเทศบัญญัติในการควบคุมดูแลแก้ปัญหาดังกล่าว
"ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ แค่เป็นความกังวลของฝ่ายบริหารทั้งในเรื่องแหล่งน้ำดิบ และจำนวนต้นมะพร้าวที่ลดลง จะหารือกับเทศบาลให้ออกเทศบัญญัติเพื่อรักษาเกาะสมุยให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืน" รองผู้ว่าฯ ระบุ
นายดำริห์ กล่าวว่า หลังจากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจพบว่าการขยายตัวของอสังหาริมทรัพย์บนเกาะสมุยขยายตัวลดลง ซึ่งอาจเป็นเพราะส่วนหนึ่งคิดการก่อสร้างแหล่งที่พักเริ่มถึงจุดอิ่มตัวแล้ว หลังจากนี้คงต้องเข้มงวดในการดูแลมากขึ้น
ส่วนปัญหาแหล่งน้ำดิบนั้น จะมีการออกกฎหมายและมาตรการจูงใจให้เจ้าของสิ่งปลูกสร้างจัดหาสถานที่เก็บน้ำดิบไว้อย่างน้อย 10% ของพื้นที่โครงการ ซึ่งคิดว่าหากทุกโครงการสามารถทำได้ จะทำให้ความกังวลเรื่องแหล่งน้ำดิบคลี่คลายลงได้ เพราะปัจจุบันพื้นที่ซับน้ำถูกถมเพื่อก่อสร้าง ขณะที่ทางจังหวัดมีแนวคิดว่าหากมีการทำโครงการแก้มลิงย่อยๆ ขึ้น ซึ่งนอกเหนือจากช่วยในการแก้ปัญหาแหล่งน้ำดิบแล้วยังแก้ปัญหาน้ำท่วมเมื่อเกิดฝนตกหนักด้วย
นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองเกาะสมุย กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวในสมุยขณะนี้ ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเช่นกัน โดยนักท่องเที่ยวลดลงราว 10% ปัจจุบันห้องพักมีอัตราเข้าพัก 60-70% เนื่องจากขณะนี้ถือเป็นปลายฤดูท่องเที่ยวของเกาะสมุย
อย่างไรก็ตาม ท้องถิ่นเองได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในและต่างประเทศ
ส่วนจำนวนต้นมะพร้าวที่ลดลงจากการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว จากเดิม 1 ล้านต้นลดลงไป 20% นั้น หลังจากนี้เทศบาลจะเร่งรณรงค์เพื่อให้มีการปลูกเพิ่มขึ้น