บริษัทโบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ทางบริษัทเฝ้าติดตามสถานการณ์การปะทุของภูเขาไฟรีเดาท์ในมลรัฐอแลสกา และคาดว่าเถ้าถ่านของภูเขาไฟที่ปะทุขึ้นมานั้นจะไม่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการขนส่งเครื่องบินรุ่น 787 Dreamliner ล็อตใหม่จากญี่ปุ่นไปยังเมืองแองคอเรจ
แมรี่ แฮนสัน โฆษกหญิงของโบอิ้งกล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า "หากพิจารณาถึงกำหนดการการส่งมอบเครื่องบินในขณะนี้ เรามองว่าเหตุการณ์ภูเขาไฟปะทุในรัฐอลาสก้าไม่น่าจะเป็นอุปสรรคต่อการขนส่งเครื่องบิน"
โดยเครื่องบิน 787 Dreamliner ซึ่งมีกำหนดการส่งมอบล่าช้าไป 2 ปี กำลังอยู่ในระหว่างการผลิตชิ้นส่วนประกอบจากซัพพลายเออร์ทั่วโลก โดยการส่งมอบเครื่องบินรุ่นดังกล่าวที่ยังไม่สมบูรณ์จะใช้ชื่อว่า Dreamlifte ซึ่งถูกส่งไปเมืองอีเวอเรตต์เพื่อประกอบชิ้นส่วนตัวเครื่องในขั้นสุดท้าย ก่อนที่จะส่งเครื่องดังกล่าวจากเมืองนาโงย่าเพื่อไปเติมเชื้อเพลิงที่เมืองแองคอเรจ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างเนื้อความในบล็อก “All Things 787" ว่าโรงงานประกอบเครื่อง Dreamlifter ในญี่ปุ่นอาจเลื่อนหรือยกเลิกการส่งมอบเครื่องบิน หลังจากที่เมื่อวานนี้ได้เกิดเหตุภูเขาไฟรีเดาท์ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองแองคอราจเป็นระยะทาง 106 ไมล์ (170 กิโลเมตร)ปะทุขึ้น ซึ่งทางโรงงานในญี่ปุ่นเกรงว่าเถ้าถ่านของภูเขาไฟจะเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
ขณะเดียวกัน จอห์น พาวเวอร์ นักธรณีฟิสิกส์กล่าวว่า การจราจรทางอากาศในพื้นที่ดังกล่าวอาจได้รับผลกระทบต่อเนื่องอีกนานหลายสัปดาห์หรืออาจนานเป็นเดือน
ทั้งนี้ โบอิ้งตั้งเป้าที่จะเปิดตัวเครื่องบิน 787 เพื่อให้บริการเครื่องบินบนน่านฟ้าเป็นครั้งแรกภายในสิ้นเดือนมิ.ย. เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการตรวจสอบเที่ยวบินในช่วงที่เริ่มให้บริการนับตั้งแต่ต้นปี 2553 ซึ่งเดิมทีได้กำหนดเส้นตายให้มีการส่งมอบครั้งแรกในเดือนพ.ค.2551 แต่ต้องเลื่อนออกไปถึง 4 ครั้งเนื่องจากมีปัญหาจากซัพพลายเออร์ผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบตัวเครื่องทำให้ขั้นตอนการผลิตยังไม่เสร็จสมบูรณ์