องค์การนิรโทษกรรมสากล เปิดเผยว่า จีนเป็นประเทศที่มีการประหารชีวิตนักโทษมากกว่าประเทศอื่นๆรวมกันในปีที่แล้ว พร้อมกันนี้องค์การฯยังได้เรียกร้องให้ประเทศต่างๆยกเลิกวิธีการลงโทษด้วยการประหารชีวิต
โดยสถิติขององค์การฯ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน ชี้ให้เห็นว่า ในบรรดาการประหารชีวิตนักโทษ 2,390 รายใน 25 ประเทศ ปรากฏว่า 72% หรือ อย่างน้อย 1,718 คดีรายการเกิดขึ้นในประเทศจีน
ไอรีน ข่าน เลขาธิการทั่วไปขององค์การนิรโทษกรรมสากล กล่าวว่า การประหารชีวิตเป็นการลงโทษที่โหดร้าย ทารุณ และป่าเถื่อนที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าตัดคอ ใช้เก้าอี้ไฟฟ้า แขวนคอ ฉีดยาพิษ ยิง และการปาหินใส่ ควรจะหมดสิ้นได้แล้วในศตวรรษที่ 21
ในเดือนพ.ย.2551 จีน ร่วมด้วยสหรัฐอเมริกา อิหร่าน เกาหลีเหนือ และซูดาน ได้ออกเสียงคัดค้าน เมื่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้โหวตให้การสนับสนุนการสั่งพักการประหารชีวิต โดยรัฐบาลจีนได้ระบุในเอกสารแถลงนโยบายเมื่อปีที่แล้วว่า จีนจะยังคงโทษประหารชีวิตต่อไป แต่จะระมัดระวังในการใช้วิธีการดังกล่าว ด้วยการประหารนักโทษลดลงและควบคุมอย่างเข้มงวด ซึ่งข้อมูลจากสื่อของทางการจีนและองค์การมนุษยชนหลายแห่งระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2550 จีนได้ขอให้ศาลฎีกาพิจารณาการลงโทษประหารชีวิตใหม่ทั้งหมด ส่งผลให้จำนวนผู้ถูกประหารชีวิตลดลง
ทั้งนี้ จีนและบางประเทศปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนการประหารชีวิตให้สาธารณะได้รับทราบ ดังนั้นข้อมูลที่องค์การนิรโทษกรรมนำมาเปิดเผยนี้จึงเป็นเพียงการคาดการณ์ขั้นต่ำที่มาจากการวิจัยข้อมูลซึ่งรวบรวมได้จากสื่อท้องถิ่น องค์กรเอ็นจีโอ กลุ่มสิทธิมนุษยชน และจากเส้นสายที่องค์การนิรโทษกรรมสากลมีอยู่ในแต่ละประเทศ
โดยการประหารชีวิตอย่างน้อย 1,838 รายในปีที่แล้ว เกิดขึ้นในเอเชีย ซึ่งนอกจากจีนที่ใช้โทษประหารชีวิตแล้ว ยังรวมถึง อัฟกานิสถาน บังคลาเทศ จีน อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีเหนือ มาเลเซีย มองโกเลีย ปากีสถาน สิงคโปร์ และเวียดนาม
ขณะที่ตะวันออกกลางและอเมริกาเหนือเป็นภูมิภาคที่มีการลงโทษประหารชีวิตมากสุดเป็นอันดับสอง ด้วยจำนวน 508 ราย ส่วนในอิหร่านมีการประหารชีวิตนักโทษอย่างน้อย 346 ราย ด้วยวิธีขว้างปาหินและแขวนคอ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้เยาว์ 8 คน และในซาอุดิอาระเบียมีการประหารชีวิตอย่างน้อย 102 ราย ซึ่งการประหารชีวิตส่วนใหญ่จะใช้วิธีฆ่าตัดศีรษะกลางที่สาธารณะ
สำหรับในสหรัฐอเมริกานั้น มีการประหารชีวิต 37 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเท็กซัส บลูมเบิร์กรายงาน