เจ้าหน้าที่ตำรวจไอวอรี โคสต์ เปิดเผยว่า เกิดเหตุเหยียบกันตายเมื่อแฟนบอลกว่า 50,000 คนเข้าไปแออัดกันอยู่ในสนามกีฬาฮูพูเอ็ต-บวกนี่ ในกรุงอาบิดจันของไอวอรี โคสต์ ซึ่งเป็นประเทศในแถบตะวันตกของทวีปแอฟริกา เพื่อชมการคัดเลือกทีมดังที่จะผ่านเข้าไปแข่งขันฟุตบอลโลก จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 22 คน และบาดเจ็บอีก 132 คน
นายเดซิเร่ ทาโกร รัฐมนตรีมหาดไทยของไอวอรี โคสต์ เปิดเผยว่า แฟนบอลเบียดเสียดและผลักกันไปมาก่อนที่การแข่งระหว่างทีมไอวอรี โคสต์ และมาลาวีจะเริ่มขึ้น จากนั้นเหตุการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นความตื่นตระหนกและเกิดการผลักกันรุนแรงขึ้นจนทำให้กำแพงส่วนหนึ่งที่สนามฮูพูเอ็ต-บวกนี่ถล่มลงมา จึงทำให้ตำรวจตัดสินใจยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายฝูงชน
"พวกเขาเริ่มจากการเบียดเสียดและผลักกันไปมาเพราะเกมการแข่งขันกำลังเริ่มขึ้น ต่างกันก็อยากจะเข้าไปดูกับตาว่าทีมโปรดของตัวเองจะเข้ารอบหรือไม่ การเบียดเสียดกัน ประกอบกับความโกลาหลจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมเหยียบกันตายในที่สุด" รัฐมนตรีมหาดไทยไอวอรี โคสต์กล่าว
ในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่สนามกีฬาในทวีปแอฟริกาหลายร้อยคนแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการเหยียบกันตาย โดยเมื่อกันยายนปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิต 13 คนจากเหตุจลาจลในสนามกีฬาที่สาธารณรัฐประชาธิปไตย และเมื่อเดือนกรกฏาคม มีผู้เสียชีวิต 23 คนจากเหตุเหยียบกันตายหลังระหว่างการแข่งขันฟุตบอลท้องถิ่นแห่งหนึ่ง สำนักข่าวเอพีรายงาน