คณะกรรมการนโยบายแอลกอฮอล์แห่งชาติ เปลี่ยนแปลงมติห้ามจำหน่ายสุราเฉพาะในวันที่ 13 เม.ย. เป็นให้รณรงค์เรื่องเมาไม่ขับอย่างเต็มที่แทน เนื่องจากหลายหน่วยงานเกรงจะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว แต่ให้ออกประกาศห้ามจำหน่ายสุราในวันสำคัญทางศาสนาตลอด 24 ชั่วโมง
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายแอลกอฮอล์แห่งชาติ กล่าวว่า คณะกรรมการฯ จะให้ประเมินผลจากการรณรงค์เมาไม่ขับอย่างเข้มข้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่าสามารถลดอุบัติเหตุได้หรือไม่ ก่อนจะนำมาใช้พิจารณากำหนดมาตรการสำหรับเทศกาลอื่นๆ ต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยจะเป็นเจ้าภาพในการตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์ในกลุ่มผู้ขับขี่ยานพาหนะเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 จุด จากเดิม 7,000 จุด โดยเน้นถนนสายรอง ซึ่งจะมีการร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัครหมู่บ้านและตำบล
สาเหตุที่คณะกรรมการฯ มีมติดังกล่าวโดยให้สามารถจำหน่ายสุราในช่วงเทศกาลได้ เนื่องจากหลายหน่วยงานเกรงว่าการห้ามจำหน่ายสุราในช่วงเทศกาลโดยเฉพาะสงกรานต์ที่จะมีชาวต่างชาติเข้ามาร่วมเทศกาลจำนวนมากนั้น อาจมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในช่วงนี้ที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยประมาณ 80,000 คน
นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายแอลกอฮอล์แห่งชาติ เกรงว่าการออกคำสั่งห้ามจำหน่ายสุราจะสร้างความตื่นตระหนกให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นผลกระทบด้านจิตวิทยา ดังนั้นจึงจะใช้กฎเกณฑ์ตามปกติที่ให้จำหน่ายสุราในเวลา 11.00 - 14.00 น. และเวลา 17.00 - 24.00 น. แต่จะเข้มงวดกับผู้ที่ดื่มสุราแล้วขับขี่ยานพาหนะ ตลอดจนการดื่มสุราบนรถขณะสาดน้ำสงกรานต์
อย่างไรก็ดี การประชุมวันนี้มีกลุ่มชมรมเมาไม่ขับมาแสดงความเห็นคัดค้านเรื่องการอนุญาตให้จำหน่ายสุราในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากเห็นว่าจะยิ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากขึ้น