ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 30 ปีของอิตาลีมีแนวโน้มพุ่งทะลุ 200 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพักของอาคารหลังเกิดอาฟเตอร์ช็อคตามมาอีกหลายระลอก
เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ปฏิบัติหน้าที่ในเมืองลากิลา ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโรมเป็นระยะทางราว 90 กิโลเมตรกล่าวว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 179 รายและสูญหายอย่างน้อย 34 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือผู้รอดชีวิตกว่า 100 คนที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารนานเกือบ 23 ชั่วโมงหลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์ช่วงเช้าตรู่วานนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นภายใต้อุณหภูมิ 7 องศาเซลเซียลและฝนที่ตกลงมาประกอบกับอาฟเตอร์ช็อคที่เกิดขึ้นกว่า 200 ครั้งทำให้การช่วยเหลือผู้รอดชีวิตดำเนินไปอย่างยากลำบาก โดยอาฟเตอร์ช็อคที่รุนแรงที่สุดนั้นวัดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 4.8 ริกเตอร์
เฮเลนา โมลิน-วาลเดส" รองผอ.ฝ่ายบรรเทาภัยพิบัติของสหประชาชาติกล่าวว่า "มีความเป็นไปได้ยากมากที่จะมีผู้รอดชีวิตจำนวนมากอยู่ใต้ซากปรักหักพัก แต่หากมีจริงคนเหล่านี้ต้องได้รับความช่วยเหลือภายใน 24 ชั่วโมง"
ด้านศูนย์ป้องกันพลเรือนกล่าวว่า หน่วยงานบริการฉุกเฉินได้ตั้งเตนท์หลายร้อยจุด พร้อมด้วยเตียงสำหรับปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 4,000 ราย นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมอาหารสำหรับคน 12,000 คน ขณะที่โรงแรมในเมืองลากีลามีเตียงรองรับผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติที่ไร้ที่อยู่อาศัย 13,000 เตียง
ด้านอัลเทอโร แมทเทโอลี รัฐมนตรีมหาดไทยกล่าวว่า อาคารกว่า 10,000 หลังได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวและการฟื้นฟูการก่อสร้างจะมีค่าใช้จ่ายกว่า 1.2 พันล้านยูโร ขณะที่นายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนีปฏิเสธที่จะรับความช่วยเหลือจากประเทศต่างๆโดยให้เหตุผลว่า อิตาลีสามารถรับมือกับภัยพิบัติครั้งนี้ได้