ยอดอุบัติเหตุสะสม 2 วันช่วงสงกรานต์ ตาย 95 บาดเจ็บ 992 ราย

ข่าวทั่วไป Sunday April 12, 2009 11:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการแถลงข่าวสถิติอุบัติเหตุทางถนนวันที่สองของการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ (11 เม.ย.) โดยมีอุบัติเหตุทางถนนรวม 538 ครั้ง น้อยกว่าสถิติปี 2551 จำนวน 205 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจำนวน 59 ราย ซึ่งเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตที่เท่ากับปี 2551 และผู้บาดเจ็บ 582 ราย น้อยกว่าปี 2551 จำนวน 272 ราย ส่งผลให้ยอดอุบัติเหตุสะสม 2 วัน เกิดอุบัติเหตุรวม 930 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 95 ราย และผู้บาดเจ็บจำนวน 992 ราย

ทั้งนี้ สาเหตุหลักของอุบัติเหตุเกิดจากเมาแล้วขับและขับรถเร็วเกินกำหนด จึงขอกำชับให้จังหวัดปรับแผนการปฏิบัติงานเน้นตรวจจับผู้ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์อย่างเข้มข้นบนถนนสายรอง โดยเฉพาะพื้นที่ที่จัดให้เล่นน้ำและงานบุญตามประเพณีของท้องถิ่น ตลอดจนรณรงค์ประชาสัมพันธ์ถึงโทษของการดื่มแอลกอฮอล์และควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด

นายถวัลย์รัฐ กล่าวอีกว่า ในส่วนของยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดเป็นรถจักรยานยนต์ ซึ่งอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรงร้อยละ 61.52 เกิดบนถนนอบต.และหมู่บ้านร้อยละ 31.41 และเกิดบนถนนทางหลวงแผ่นดินร้อยละ 36.43 โดยช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด เป็นช่วงกลางคืนร้อยละ 64.68 โดยเฉพาะช่วงเวลา 16.01-20.00 น.

ส่วนผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน อายุระหว่าง 20-49 ปี สำหรับจังหวัดที่ยังไม่เกิดอุบัติเหตุมี 3 จังหวัด ได้แก่ ยโสธร อำนาจเจริญ และนราธิวาส ส่วนจังหวัดที่มีอุบัติเหตุสูงสุดมี 2 จังหวัด จังหวัดละ 27 ครั้ง คือ นครศรีธรรมราช และบุรีรัมย์ จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด จำนวน 5 คน คือ นครราชสีมา และจังหวัดที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ บุรีรัมย์และนครศรีธรรมราช จังหวัดละ 26 คน ทั้งนี้จากการตั้งจุดตรวจหลัก 3,028 จุด เรียกตรวจยานพาหนะ 716,317 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีตามมาตรการ 3 ม.2ข.1ร. รวม 218,276 ราย ส่วนใหญ่เป็นกรณีไม่มีใบขับขี่ 18,232 ราย รองลงมาไม่สวมหมวกนิรภัย 17,638 ราย

นอกจากนี้ให้เจ้าหน้าที่สรรพสามิตและตำรวจกวดขันร้านค้าให้จำหน่ายสุราได้เฉพาะช่วงเวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น. และไม่ให้จำหน่ายสุราแก่ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ