รายงานข่าวแจ้งว่า นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ได้ถูกควบคุมตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์มายังสนามฟุตบอล ห่างจากเรือนจำพิเศษพัทยา 500 เมตร มีตำรวจชุดคอมมานโด พร้อมอาวุธครบมือ จำนวน 15 นาย คอยอยู่โดยรอบสนาม และได้พาตัว นายอริสมันต์ ขึ้นรถตู้มายังเรือนจำพิเศษ มี นายเสนีย์ รัตนเจริญ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษพัทยา เจ้าหน้าที่เรือนจำ และมีกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 2 กองร้อย ประมาณ 300 คน ให้การดูแลเพราะเกรงว่ากลุ่มเสื้อแดงจะมาชิงตัว อย่างไรก็ตาม นายไชยา พงศ์เรืองรอง พี่ชาย และนายพิชา วิจิตรศิลป์ ทนายความ ได้ร่วมเดินทางมาด้วย โดยนายอริสมันต์ถูกฝากขังในเรือนจำพิเศษพัทยาเป็นเวลา 12 วัน
นายพิชา กล่าวว่า ขณะนี้ได้ร่วมกับ นายพิชิต ชื่นบาน มายื่นเรื่องขอประกันตัว ในวงเงิน 5 แสนบาท เป็นการกระทำตามสิทธิของผู้ต้องหาในการขอประกันตัว ส่วนจะได้รับอนุมัติหรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจจากผู้พิพากษาศาลเท่านั้น ทั้งนี้ ก่อนจะนำตัวเข้าไปฝากขังในเรือนจำ ผู้พิพากษาได้สอบถาม นายอริสมันต์ แล้วว่า ถ้าได้รับการประกันตัวจะออกไปร่วมชุมนุม และขี้นเวทีปราศรัยอีกหรือไม่ เบื้องต้นนายอริสมันต์ยังยืนยันว่าจะปฎิบัติตามสิทธิตามรัฐธรรมนูญ จากนั้นได้ส่งมอบตัวให้กับเจ้าหน้าที่ของเรือนจำนำตัวเข้าเรือนจำทำการคุมขัง โดยไม่ทราบว่าขังในห้องใด หรือขังในห้องพิเศษ หรือห้องขังเดี่ยว เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในเรือนจำคงต้องแยกขัง
สำหรับบรรยากาศบริเวณเรือนจำ มีแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่เรือนจำ ไม่มีประชาชนหรือกลุ่มเสื้อแดงมาให้กำลังใจแต่อย่างใด เพราะการนำตัวนายอริสมันต์มาเรือนจำพิเศษพัทยา เป็นความลับรู้เฉพาะ ผบช.ภ.2 และผู้เกี่ยวข้องเท่านั้น ส่วนนายอริมันต์ ยังใส่เสื้อยืดสีแดง ก่อนที่จะเข้าห้องคุมขังได้โบกมือให้กับผู้สื่อข่าว แต่ใบหน้าหม่นหมองและอ่อนเพลีย
ทั้งนี้ นายอริสมันต์ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทยาที่ 332/2552 ลง 13 เม.ย. 52 ในข้อหาร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ร่วมกันกระทำด้วยประการใด ๆ ให้ทางสาธารณอยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อการจราจร และกระทำการให้ปรากฎต่อประชาชนอันด้วยวาจาอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ร่วมกันขัดคำสั่งเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกมั่วสุม ร่วมกันบุกรุกโดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ร่วมกันเดินแถวหรือเป็นขบวนแห่ หรือเป็นขบวนใด ๆ ในลักษณะที่เป็นการขีดขวางการจราจร ร่วมกันวางตั้ง ยืน หรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร