พ.อ. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ในช่วงเย็นวันนี้ จะมีการปรับกำลังทหารเพื่อรักษาความปลอดภัย โดยแบ่งพื้นที่กรุงเทพมหานคร ออกเป็น 50 เขตตามเขตการปกครอง ซึ่งแต่ละพื้นที่จะมอบหมายให้หน่วยทหารรับผิดชอบเป็นหน่วย ๆ ในแต่ละเขต เพื่อพิจารณาว่าพื้นที่ใดควรเฝ้าระวัง ต้องตั้งจุดตรวจ และตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เพื่อให้ความอุ่นใจแก่ประชาชน และป้องกันไม่ให้มีเหตุวุ่นวายต่าง ๆ เกิดขึ้น
ขณะที่การประเมินสถานการณ์ต้องพิจารณาว่าการชุมนุมจบสิ้นจริงแล้วหรือไม่ เพราะหลังประกาศยุติการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ขณะนี้ก็ยังมีพื้นที่ที่น่าจับตาอีก 3 แห่ง คือ พื้นที่เทเวศร์ พื้นที่สนามหลวง และลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดจากนี้คือ ต้องเร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน เนื่องจากขณะนี้มีการนำภาพทหารยิงประชาชนไปขยายผล ซึ่งภาพที่ทหารเล็งปืนใส่กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการชี้แจงไปแล้วเมื่อวานนี้ ว่าเป็นภาพของการใช้กระสุนซ้อมรบ ซึ่งเป็นกระสุนที่ไม่มีหัวกระสุน มีแต่เสียง พอยิงลั่นไกออกไปแล้ว กระดาษจะแตกที่ปลายกระบอกปืน ไม่มีหัวกระสุนวิ่งออกไป มีเฉพาะเสียงข่มขวัญกลุ่มผู้ชุมนุมเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ทหารและตำรวจเป็นมิตรกับประชาชนสามารถให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทางได้ ส่วนการประกาศให้วันที่ 16-17 เมษายนนี้ เป็นวันหยุดเพิ่มเติมนั้น ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี เนื่องจากช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ประชาชนมีโอกาสสนุกสนานกันน้อย ดังนั้น การประกาศใช้พระราชกำหนดในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้มุ่งหวังให้ส่งผลกระทบต่อการจัดกิจกรรมรื่นเริง แต่มุ่งหวังในการจำกัดการชุมนุม ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงด้านเสถียรภาพทางการเมืองเท่านั้น