ศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง"ความหวังและความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจ และการปรับเปลี่ยนรายจ่ายของผู้บริโภคระดับครัวเรือน" พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ถึง 94.4% เห็นว่าเศรษฐกิจในเดือนมี.ค.แย่ลง และส่วนใหญ่ยังหวังจะพึ่งตัวเองมากกว่าพึ่งรัฐบาลเพื่อให้สามารถอยู่รอดต่อไปได้
ส่วนรายได้ของตัวเองและครอบครัวในช่วงเดือน มี.ค. ประชาชนส่วนใหญ่มากกว่า 70% ระบุว่ารายได้ไม่ดี ในขณะที่ประชาชนประมาณครึ่งหนึ่งหรือ 49.5% ยังรู้สึกว่ามีความมั่นคงในหน้าที่การงาน
ทั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่ 62.8% หวังพึ่งตนเองเพื่ออยู่รอดโดยไม่รอรัฐบาลมาช่วยแก้ปัญหา โดยส่วนใหญ่ระบุว่าได้ปรับลดค่าใช้จ่าย เรื่องเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย การรับประทานอาหาร การเดินทาง และการท่องเที่ยวลง อีกทั้งไม่มีแผนที่จะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ และบ้านหลังใหม่ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนข้างหน้าต่อจากนี้
ผลสำรวจดังกล่าว มาจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจำนวนทั้งสิ้น 1,200 ครัวเรือน จาก 17 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, เชียงใหม่, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, เพชรบูรณ์, ปทุมธานี, ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, กาญจนบุรี, เพชรบุรี, หนองบัวลำภู, สกลนคร, ศรีสะเกษ, ขอนแก่น, พัทลุง, ระนอง และสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 18 เม.ย.52