รัฐบาลสหรัฐประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดหมู (H1N1) ในสหรัฐและเม็กซิโกพุ่งสูงขึ้น พร้อมระบายยาทามิฟูลต้านไวรัสไข้หวัดหมูออกจากคลังสำรอง
ดร.ริชาร์ด เบสเซอร์ รักษาการณ์ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) เป็นผู้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่ทำเนียบขาวในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาประเทศไทย หลังจากรัฐบาลแคนาดายืนยันพบผู้ป่วย 6 ราย ขณะที่บราซิล ยุโรป และนิวซีแลนด์ พบผู้สงสัยติดเชื้อหลายคน ส่วนที่สหรัฐพบผู้ติดเชื้อแล้ว 20 รายใน 5 รัฐ และคาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอีก
"เราประเมินสถานการณ์แล้วพบว่า การแพร่ระบาดจะรุนแรงขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐกำลังใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสุขภาพของประชาชน เราคาดว่าการให้คำแนะนำด้านการป้องกันจะมีการปรับเปลี่ยนเป็นระยะๆตามความรุนแรงของสถานการณ์" ดร.เบสเซอร์กล่าว
การประสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของรัฐบาลสหรัฐมีขึ้นหลังจากทางการแคนาดาเปิดเผยว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส ไข้หวัดหมู 6 คนภายในประเทศ ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่กำลังแพร่ระบาดในเม็กซิโกค และคาดว่าจะจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอีก
ด้านนางเจเน็ต นาโปลิทาโน รมว.กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐกล่าวว่า แม้ขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัสไข้หวัดหมู แต่ทางการสหรัฐได้ระบายยาต้านไวรัส รวมถึงยาทามิฟลูออกจากคลังสำรองประมาณ 25% แล้ว โดยยาทามิฟลูต้านไวรัสไข้หวัดหมูผลิตโดยบริษัท โรช โฮลดิ้งและแกล็คโซสมิธไคลน์ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน