เคอิจิ ฟูคูดะ รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายความมั่นคงด้านสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวแสดงความเห็นว่า ปัจจุบันทั่วโลกสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของโรค รวมถึงไวรัสไข้หวัดนกได้ดีกว่าเมื่อ 5 ปีก่อน จึงทำให้ทั่วโลกมีประสบการณ์ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดหมู (H1N1)
WHO ระบุว่า โรคไข้หวัดหมูเป็น "สถานการณ์ฉุกเฉินทางสาธารณสุขในระดับโลก"และมีผู้เสียชีวิตถึง 81 รายในเม็กซิโกที่ป่วยเพราะติดเชื้อไวรัสที่ปกติจะติดเชื้อผ่านทางสุกร การระบาดของไข้หวัดหมูครั้งนี้ทำให้เกิดความวิตกกังวลเหมือนเมื่อคราวที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสหวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ในเอเชียเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วที่ส่งผลให้มีการกำจัดสัตว์ปีกหลายล้านตัว และมีผู้ป่วยจำนวนมาก อีกทั้งการซื้อขายสัตว์ปีกที่ชะลอตัวลง
"สถานการณ์เมื่อ 5 ปีก่อนทำให้เรามีประสบการณ์มากขึ้นในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดหมู เราคาดว่าไวรัสไข้หวัดหมูอาจกลายพันธุ์กลายเป็นไวรัสที่มีอันตรายร้ายแรงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญของ WHO กล่าวว่า ต้องการพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนที่จะตัดสินใจว่าควรจะเพิ่มระดับเตือนภัยการแพร่ระบาดของไข้หวัดหมูหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันการเตือนภัยยังอยู่ที่ระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าโอกาสที่ไข้หวัดหมูจะแพร่ระบาดจากคนสู่คนมีน้อยมาก" ฟูคูดะกล่าว
ฟูคูดะกล่าวว่า คณะกรรมการด้านสถานการณ์ฉุกเฉินของ WHO จะจัดการประชุมในวันพรุ่งนี้เพื่อประเมินสถานการณ์ ซึ่งนางมาร์กาเรต ชาง ผู้อำนวยการ WHO จะเข้าร่วมประชุมด้วย สำนักข่าวซินหัวรายงาน