ประธานคณะกรรมการประกันสังคม เผยเตรียมพิจารณาหาข้อสรุปการปรับลดจ่ายเงินสมทบให้กับลูกจ้างและนายจ้าง ซึ่งคาดว่าจะปรับลดลง 2% จากเดิมที่ต้องจ่ายสมทบฝ่ายละ 5% โดยเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งตั้งเป้าจะสามารถช่วยไม่ให้เกิดปัญหาคนงานถูกเลิกจ้างได้อีกราว 5 แสนคน
"มาตรการนี้เราต้องการที่จะช่วยคนไม่ให้ตกงานเพิ่มประมาณ 4-5 แสนคน หากไม่ลดหรือไม่ทำอะไรเลยกองทุนประกันสังคมจะต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับคนตกงานไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท จริงอยู่การลดเงินสมทบครั้งนี้ สปส.ต้องเสียเงินกองทุนประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่ากันเมื่อเทียบกันเงินที่เสียไป แต่จะไม่กระทบต่อกองทุนบำนาญชราภาพ" นายสมชาย ชุ่มรัตน์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม กล่าว
ที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ ได้มีการหารือเรื่องดังกล่าวมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งทุกฝ่ายเห็นชอบในหลักการร่วมกัน แต่ต้องหารือข้อสรุปเกี่ยวกับจำนวนตัวเลขที่จะปรับลดกันอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะลดลง 2% ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง จากเดิมที่สมทบอยู่ที่ 5% แต่ในส่วนรัฐบาลจะยังสมทบที่ 2.75% เช่นเดิม
ประธานคณะกรรมการประกันสังคม กล่าวว่า หากคณะกรรมการฯ สามารถหาข้อสรุปได้ภายในวันพรุ่งนี้(28 เม.ย.) หลังจากนั้นจะนำเสนอให้นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน พิจารณาพร้อมนำสู่ขั้นตอนการร่างกฎกระทรวง หลังจากนั้นจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบประกาศใช้ต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 30 วัน และจะเริ่มประกาศใช้ได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอให้มีการปรับลดเงินสมทบครั้งนี้จะดำเนินการภายในระยะเวลา 6 เดือน(มิ.ย.-ธ.ค.52) หลังจากนั้นจะมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป