นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปราศรัยเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2552 วันที่ 1 พฤษภาคม โดยยืนยันว่า รัฐบาลจะเร่งนำความเชื่อมั่นจากนักลงทุน การค้า การท่องเที่ยวกลับคืนมา โดยใช้เวทีระหว่างประเทศให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด และได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยตรงแล้ว ยังได้ออกมาตรการหลายด้านเพื่อช่วยเหลือประชาชน เช่น มาตรการช่วยค่าครองชีพ มาตรการสนับสนุนโครงการเศรษฐกิจพอเพียง การเพิ่มเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุ และโครงการเช็คช่วยชาติ
ส่วนมาตรการระยะยาว รัฐบาลได้กำหนดให้เพิ่มการลงทุนด้านอาหาร พลังงานทดแทน และโครงสร้างพื้นฐานด้านการพัฒนาประเทศ การคมนาคม แหล่งน้ำ รวมทั้งเพิ่มศักยภาพ โดยให้การท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ
ส่วนการช่วยเหลือผู้ใช้แรงงาน นอกจากโครงการช่วยค่าครองชีพแล้ว รัฐบาลยังดำเนินมาตรการต้นกล้าอาชีพ เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ใช้แรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้าง หรือกำลังจะถูกเลิกจ้าง ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้ใช้แรงงานได้ยกระดับฝีมือแล้ว ยังสามารถกลับเข้าสู่การจ้างงานได้อีกด้วย
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังกำหนดมาตรการรับมือการเลิกจ้างแรงงานในปี 2552 คือการติดตามช่วยเหลือลูกจ้างให้ได้รับสิทธิ์ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน และช่วยเหลือทางการเงินผ่านกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง โดยตั้งคณะกรรมการติดตามการเลิกจ้างและการช่วยเหลือผู้ใช้แรงงาน ทั้งนี้ไม่อยากให้ประชาชนวิตกมากเกินไป กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะรัฐบาลเตรียมการรับมือกับปัญหาอย่างเป็นระบบแล้ว โดยมั่นใจว่าจะสามารถผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย