สหภาพแรงงานในหลายประเทศทั่วโลกถือโอกาสใช้วันแรงงานสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 1 พ.ค.ของทุกปี รวมตัวกันเดินขบวนประท้วง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลของตนจัดการกับปัญหาอัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้น การถูกเลิกจ้างหรือลดเงินเดือน และการจัดหางานให้กับคนที่ตกงานมีงานทำในระยะยาว ไม่ใช่แค่ชั่วคราว
ในฝรั่งเศส ได้มีการนัดเดินขบวนประท้วงถึง 300 กลุ่มทั่วประเทศ หลังจากที่รัฐบาลของนายนิโกลาส์ ซาร์โกซี ได้เผชิญกับการนัดหยุดงานประท้วงของแรงงานในทุกภาคส่วนมาตั้งแต่ต้นปี ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล ครูอาจารย์ นักเรียนนักศึกษา ข้าราชการหรือพนักงานของรัฐ ที่ทำการไปรษณีย์ พนักงานธนาคาร เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ และพนักงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ หรือแม้แต่กลุ่มชาวประมง เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้ไม่พอใจมาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งส่งผลให้พวกเขาไม่มีความมั่นคงในหน้าที่การงานและค่าจ้าง
ขณะที่ในเยอรมนี กลุ่มผู้ประท้วงราว 200 คนได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรุงเบอร์ลินเมื่อคืนนี้ โดยได้มีการขว้างปาขวดและก้อนหินเข้าใสตำรวจ รวมถึงรถยนต์และรถรางที่แล่นผ่าน ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 29 นายได้รับบาดเจ็บ และมีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 12 ราย
ในประเทศตุรกี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้เครื่องฉีดน้ำขนาดใหญ่สลายกลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนที่มารวมตัวกันใจกลางนครอิสตันบูล
นอกจากนี้ แรงงานในสเปน อิตาลี รัสเซีย คิวบา ก็นัดเดินขบวนประท้วงในวันแรงงานเช่นกัน เช่นเดียวกับสหภาพฯในหลายประเทศในเอเชีย อาทิ ในกัมพูชา ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น และฮ่องกง
โดยในฮ่องกง แรงงานหลายร้อยคนถือโอกาสในวันแรงงาน จัดการประท้วงเรื่องการเลิกจ้างและการลดชั่วโมงทำงาน การประท้วงแบ่งเป็น 2 กลุ่ม จัดโดยสหภาพแรงงานฝ่ายค้านและฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งแยกกันเดินขบวนอย่างสงบไปตามท้องถนน จากย่านธุรกิจการเงินหลักของเกาะฮ่องกง และวิคตอเรีย พาร์ก ในคอสเวย์ เบย์ ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้งสำคัญ ไปจนถึงที่ทำการของรัฐบาล
ทั้งนี้ วิกฤตการเงินและเศรษฐกิจโลกส่งผลให้ความต้องการสินค้าส่งออกของฮ่องกงซบเซา และราคาอสังหาริมทรัพย์ดิ่งลง ขณะที่ตัวเลขว่างงานล่าสุดของฮ่องกงอยู่ที่ 5.2% ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้