เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของเม็กซิโกเปิดเผยว่า เม็กซิโกจะส่งเครื่องบินไปยังประเทศจีนเพื่อรับชาวเม็กซิกันกลับประเทศ เนื่องจากไม่พอใจที่จีนกักตัวนักท่องเที่ยวชาวเม็กซิโก 70 กว่าคนไว้โดยให้เหตุผลว่าเป็นมาตรการป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระบาดในประเทศ
เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อเนื่องจากเป็นนโยบายของกระทรวงฯ ระบุว่า เครื่องบินเช่าเหมาลำของสายการบิน แอโรเม็กซิโก จะเดินทางไปถึงประเทศจีนภายในวันนี้ แต่ไม่ทราบว่าเครื่องบินจะให้สิทธิเฉพาะชาวเม็กซิโกที่ถูกกักตัวไว้หรือชาวเม็กซิโกทุกคนที่ต้องการเดินทางออกจากประเทศจีน
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและเม็กซิโกเริ่มตึงเครียดขึ้น หลังจากที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ชายชาวเม็กซิกันวัย 25 ปีคนหนึ่งซึ่งเดินทางมาถึงนครเซี่ยงไฮ้เพื่อเดินทางต่อไปยังฮ่องกง ถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 ส่งผลให้เขากลายเป็นผู้ติดเชื้อรายแรกในฮ่องกงและรายแรกในเอเชีย และทำให้ผู้โดยสารที่เดินทางมาในเที่ยวบินเดียวกันและยังอยู่ในจีนถูกกักตัวทั้งหมด โดยทางการจีนได้ใช้มาตรการเข้มถึงขั้นกักตัวแขกผู้พักอาศัยอยู่ในโรงแรมเดียวกับผู้ติดเชื้อด้วย ทั้งที่แขกบางรายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเที่ยวบินดังกล่าวเลยก็ตาม
ส่งผลให้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แพทริเซีย เอสปิโนซ่า รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโก ได้วิพากษ์วิจารณ์จีน รวมถึงเปรู อาร์เจนตินา คิวบา และเอกวาดอร์ ที่สั่งระงับเที่ยวไปเม็กซิโก พร้อมกล่าวหามาตรการกักกันตัวผู้ติดเชื้อของรัฐบาลจีนว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ และได้ออกแถลงการณ์เตือนประชาชนไม่ให้เดินทางไปยังประเทศจีนเพื่อเป็นการตอบโต้
ด้านประธานาธิบดีเฟลิปเป คัลเดอรอน ของเม็กซิโก ก็ออกมาประณามบางประเทศที่ตั้งแง่รังเกียจชาวเม็กซิกัน หลังเกิดการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
"ตอนนี้มีบางประเทศที่แสดงความรังเกียจและเหยียดหยามชาวเม็กซิกันอันเนื่องมาจากความไม่รู้และความเข้าใจผิด" นายคัลเดอรอน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางการจีนได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงในวันนี้ว่า จำเป็นต้องกักตัวนักท่องเที่ยวชาวเม็กซิกันจำนวนหนึ่งไว้ที่โรงพยาบาลเพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชี้จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการป้องกันเป็นพิเศษหลังจากที่เชื้อไวรัสดังกล่าวได้ลามมาถึงฮ่องกงแล้ว
"เราเข้าใจที่เม็กซิโกเป็นห่วงเรื่องสิทธิและผลประโยชน์ของชาวเม็กซิกัน แต่เราขอยืนยันว่ามาตรการป้องกันความปลอดภัยดังกล่าวไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ชาวเม็กซิกันเพียงกลุ่มเดียว และไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด" หม่า เจ้าซู โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าว