ขณะที่ผู้คนในมณฑลเสฉวนของจีนยังคงตั้งหน้าตั้งตาฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ของตนเองนับตั้งแต่ที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว 7.9 ริกเตอร์เมื่อปีก่อน เหล่าแพนด้ายักษ์ก็กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดเช่นกันหลังจากสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยของพวกมันถูกทำลายจากธรณีพิบัติดังกล่าว
แผ่นดินไหวรุนแรงในครั้งนั้นได้ส่งผลให้แผ่นดินและภูเขาถล่มและทำให้เกิดความเสียหายไปทั่วอาณาบริเวณของเขตป่าสงวนซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ศึกษาอนุรักษ์แพนด้ายักษ์อู้หลง หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า "บ้านของแพนด้า"
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เหล่าหมีแพนด้าได้รับความบอบช้ำทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยแพนด้าหลายตัวหนีขึ้นไปบนต้นไม้และไม่สามารถลงมาได้ ซึ่งหวัง เผิงหยาน หัวหน้าวิศวกรประจำศูนย์ฯ ตั้งข้อสันนิษฐานว่านั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้แพนด้าเครียดและส่งผลสืบเนื่องให้อัตราการเกิดของลูกแพนด้าลดลงอย่างต่อเนื่อง หวังเผยว่าในปีที่แล้ว มีลูกแพนด้าเกิดใหม่แค่ 13 ตัว เทียบกับจำนวน 17 ตัวในปี 2550 และ 30 ตัวซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในปี 2549
"ทีมงานของเราหาวิธีต่างๆมาใช้ เราทุ่มเทเวลาอย่างมากในการสื่อสารและเล่นกับพวกแพนด้า ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้พวกมันฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ เราพูดคุยกับพวกมันด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลอ่อนโยน เราชมพวกมันว่าดีและน่ารัก" หวังกล่าวกับซีเอ็นเอ็น "แผ่นดินไหวอาจเป็นหนึ่งในหลายสาเหตุที่ว่าทำไมจำนวนแพนด้าเกิดใหม่จึงลดลงในปีนี้ และนี่ก็เป็นข้อสันนิษฐานของเราในตอนนี้"
สัตว์ส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในเขตสงวนนี้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหว ยกเว้นแพนด้าเพศหญิงที่มีชื่อว่า เหมา เหมา ซึ่งตายลง ขณะที่อีกสองตัวได้รับบาดเจ็บ และอีกหนึ่งตัวยังคงสูญหาย
หวังกล่าวต่อไปว่า "บ้านที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่อยู่ของแพนด้าได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว ดังนั้นเราจึงต้องให้แพนด้าอยู่ในที่ที่จำกัด ซึ่งเหตุนี้ได้สร้างแรงกดดันอย่างมากให้กับทั้งทีมงานของเราและแพนด้า พื้นที่อาศัยสำหรับแพนด้าจึงถือเป็นความท้าทายใหญ่สุดสำหรับเราในตอนนี้"
ทั้งนี้ ปัจจุบัน มีแพนด้าประมาณ 1,590 ตัวอาศัยอยู่ในประเทศจีน